posttoday

วิกฤตโควิดระบาดลากยาว คาดคุมได้ต้นปี65

29 กรกฎาคม 2564

นักวิชาการทีดีอาร์ไอ คาดวิกฤตโควิดระบาดลากยาว คาดคุมได้ต้นปี 65 เร่งรัดรัฐบาลเยียวยาให้ประชาชนชนรอดตาย

ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสด้านนโยบายเศรษฐกิจส่วนรวมและเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า การระบาดโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อสูงกว่าวันละ 1.5 หมื่นคน ถือว่าเป็นการระบาดในชุมชนที่ไม่สามารถตรวจติดและควบคุมการระบาดได้เหมือนกับการระบาดก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น ที่บ่อนไก่ แรงงานต่างด้าวจังหวัดสมุทรสาคร บ่อนการพนันจังหวัดระยอง ที่สามารถตรวจสอบสวนโรค และแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ที่ไม่ติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้หยุดการแพร่ระบาดได้

"ตอนนี้ประเทศไทยติดเชื้อโควิดวันละมากกว่า 1.5 หมื่นคน ติดเต็มไปหมดทุกที่ สอบสวนโรคไม่ได้แล้ว เมื่อเทียบกับกรณีของต่างประเทศที่เคยเกิดขึ้นแบบเดียวกับของไทยขณะนี้ พบว่าไม่สามารถหยุดการติดเชื้อได้ด้วยตัวเอง มีวิธีเดียวคือ การเร่งฉีดวัคซีน หรือ ปล่อยให้ติดมากจนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่" ดร.นณริฏ กล่าว

ดร.นณริฏ กล่าวว่า การระบาดโควิดของไทยเฟส 1 ใช้เวลาในการควบคุม 1 เดือน เฟส 2 ใช้เวลาควบคุม 4 เดือน เฟส 3 เดิมคิดว่าจะใช้เวลา 6 เดือน แต่มีเฟส 4 เข้ามาผสม คือ การระบาดโควิดสานพันธุ์เดลต้า ทำให้ควบคุมไม่ได้ ทำให้ผมคิดว่าอย่างเร็วที่สุดรัฐบาลน่าจะควบคุมการระบาดรอบนี้ได้ในปีใหม่ประมาณเดือน ก.พ. 2565

"ล็อกดาวน์ แบบมีวัคซีนฉีดได้น้อย ก็ต้องสู้กันไปแบบนี้อีก 5-6 เดือน ซึ่งคงมีการล็อกๆ เปิดๆ กันแบบนี้ เพราะหากมีวัคซีน ปัญหาก็จบ เพราถึงมีคนติดมาก แต่คนเข้าโรงพยาบาลและตายน้อยลง เหมือนประเทศอิสราเอลที่ฉีดวัคซีนได้จำนวนมาก กลับมาระบาดรอบใหม่คนติดเป็นพันคน แต่ตายวันละหลัก 1 คน" ดร.นณริฏ กล่าว

ดร.นณริฏ กล่าวว่า การระบาดโควิด-19 ของไทยตอนนี้ยังมองไม่เห็นจุดกลับตัวของการระบาดที่จะลดลง โดยผมมองการระบาดโควิดของไทยตอนนี้เป็นรูประฆังคว่ำ ที่ผู้ติดเชื้อยังไม่ขึ้นไปสูงสุดถึงยอดระฆัง ทำให้ผมประเมินว่าประเทศไทยยังต้องใช้เวลาอีกนานหลายเดือนกว่าจะควบคุมการระบาดของโควิดให้ได้อยู่วันละ 40-100 คน

"การช่วยเหลือประชาชนตอนนี้ รัฐบาลไม่มีทางเลือกต้องจ่ายเงินเยียวยาที่เหมาะสม จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท หากไม่พอก็ต้องกู้เพิ่ม ยังไม่ต้องคิดการกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตอนนี้นี้แค่คิดกู้มาเยียวยาประชาชาให้เอาตัวรอดไม่ตายไปก่อนสำคัญกว่า" ดร.นณริฏ กล่าว