รัฐบาลปลื้มมากไม่แจกเงินสดประสบความสำเร็จ
รัฐบาลแจงไม่แจกเงินสด แจกเงินน้อย แจกเงินช้า เพราะเงินเหลือน้อย ไม่แน่ใจโควิดคุมอยู่ไหม
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในประเด็นการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รอบใหม่ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ว่า การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จาก พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท มีการอนุมัติโครงการไปแล้ว 256 โครงการ เป็นวงเงิน 7.5 แสนล้านบาท เหลือเงินอีก 2.5 แสนล้านบาท
สำหรับที่ สส. อภิปรายว่า ทำไมไม่เร่งใช้เงินให้หมด มีแล้วก็ต้องใช้ให้หมดเร่งกระตุ้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวชี้แจงว่า เรื่องการระบาดของโควิด-19 มันก็ยังไม่แน่ใจว่าจะหมดจะจบสิ้นหรือไม่ มันยังมีความไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นต้องจำเป็นใช้เงินอย่างระมัดระวัง ที่ผ่านมาผมชี้แจงในสภาแห่งนี้ 2 ครั้งแล้ว ผมก็จะพูดอย่างนี้ เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลระมัดระวังเก็บรักษาเงินที่กู้มาดูแลประชาชนให้ผ่านพ้นการระบาดโควิด-19 ในรอบนี้ไปได้
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า วงเงินกู้เพื่อใช้ดูแลบุคลากรทางการแพทย์ และการซื้อวัคซีน เหลืออีก 2.5 หมื่นล้านบาท ท่านสบายใจได้ว่ามีเงินเหลือพอ
"การเยียวยาประชาชน ทั้งโครงการเราชนะ 2.1 แสนล้านบาท โครงการม.33 เรารักกัน อีก 3.7 หมื่นล้านบาท และโครงการอื่นทั้งหมดใช้เงินกู้ไปแล้ว 5.58 แสนล้านบาท เป็นจำนวนไม่น้อย แต่รัฐบาลเข้าใจเพราะในช่วงล็อกดาวน์ประชาชนได้รับความเดือนร้อน ตอนนี้เหลือเงินอีก 2.5 แสนล้านบาท ก็อยากให้สบายใจ" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า สส. หลายท่านสงสัยว่าทำไมการเยียวยาต้องเป็นสิทธิ ไม่ได้เป็นเงินสด เพราะดูจากโครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่เป็นการร่วมจ่าย (โคเพย์) จะเห็นว่าประสบความสำเร็จ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเศรษฐกิจฐานรากขยายตัวได้ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าดีใจ เพราะเป็นเงินของคนที่ยังมีกำลังไปช่วยคนที่แย่กว่า ซึ่งเป็นเรื่องน่าดีใจที่ได้เห็นถึงผลสำเร็จตรงนี้
"ผมเข้าใจว่าเป็น สส. ฝ่ายค้าน มาที่สภาผู้แทนเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่านจะมาชื่นชมรัฐบาลไม่ได้ ผมเข้าใจ แต่ผมเรียนได้เลยว่าในความรู้สึกลึกๆ ของทุกๆ คน ของประชาชน หรืออย่างน้อยคนที่ได้รับสิทธิคนละครึ่ง 15 ล้านคน เขารู้ว่าได้รับประสบการณ์เขาได้แชร์ทำให้คนอื่นดีขึ้น และไม่ได้เป็นการเอื้อเจ้าสั้ว เป็นการช่วยเหลือตัวเล็ก และวิธีการนี้เป็นต้นแบบของๆทุกรัฐบาลต่อไปที่จะมาใช้ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องแจกเงินสด" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว


