posttoday

แก้ไม่ตก "หนี้ครัวเรือน" ระเบิดใส่เศรษฐกิจ

02 มกราคม 2564

ปัญหาหนี้ครัวเรือนประทุใส่เศรษฐกิจไทยอีกครั้ง ทำสถิติสูงสุดรอบ 18 ปี มูลหนี้กว่า 13 ล้านล้านบาท ปีนี้ได้เห็นทะลุ 14 ล้านล้านบาท

เศรษฐกิจไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เจอมหาวิกฤตตั้งแต่ส่งท้ายปีเก่า 2563 และต้อนรับปีใหม่ 2564

จากที่ต้องฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่ทุกคนต้องมารับมือกับวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ที่จะเรียกรอบสอง รอบใหม่ หรือรอบพิเศษ อะไรก็ตาม ถือว่ารุนแรงกว่ารอบแรก ทั้งจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และการควบคุมที่ทำท่าเอาไม่อยู่ จนต้องเริ่มมีการล็อกดาวน์ประเทศกันอีกครั้ง ส่งผลกระทบให้ธุรกิจเสียหายและประชาชนแรงงานตกงานขาดรายได้รอบใหม่อีกครั้ง

นอกจากนี้ เศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังเจอวิกฤตใหญ่วิกฤตเก้า ปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่งไม่หยุดจ่อคอหอย ใกล้ระเบิดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจได้ไปพร้อมกับวิกฤตโควิด-19 รอบใหม่

จากการรายงานสำนักวิจัยกสิกรไทย อ้างข้อมูลเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน หรือ “หนี้ครัวเรือน” ล่าสุดในไตรมาส 3/2563 จาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สะท้อนว่า หนี้ครัวเรือนของไทยยังคงอยู่ในระดับสูง และมีทิศทางเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางสัญญาณอ่อนแอของภาวะเศรษฐกิจ

โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนในไตรมาส 3/2563 ทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 ปีครั้งใหม่ที่ 86.6% ต่อจีดีพี หรือคิดเป็นมูลหนี้ 13.77 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 1.82 แสนล้าน จากไตรมาสก่อนหน้า โดยหนี้เพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นสินเชื่อบ้านปล่อยใหม่ ยังคงขยับขึ้นอีกประมาณ 1.60 แสนล้านบาท คิดเป็น 88% ของการเพิ่มขึ้นของยอดคงค้างหนี้ครัวเรือน

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณการก่อหนี้ในส่วนอื่นๆ (ทั้งหนี้ก้อนใหญ่ อย่างหนี้เพื่อการประกอบอาชีพและหนี้เช่าซื้อรถยนต์ และหนี้เพื่ออุปโภคบริโภค เช่น บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล) ที่กลับมาเร่งสูงขึ้นในไตรมาสที่ 3/2563 อีกครั้ง จากที่มีทิศทางชะลอลงในไตรมาส 2/2563 ซึ่งมีการระบาดของโควิด-19 รอบแรก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนของไทยจะขยับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 90% ต่อจีดีพีในช่วงสิ้นปี 2563 นี้ และมีโอกาสเร่งขึ้นต่อในปี 2564 หากความเสี่ยงของการระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเนื่องทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ล่าช้ากว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

ปัญหาที่ตามมาคือ หนี้ครัวเรือนมีความเปาะบางสูงจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้รายได้ลด สวนทางหนี้ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้มีปัญหาการผ่อนชำระหนี้ในเวลาอันสั้นนี้ เกิดเป็นปัญหาสถาบันการเงิน ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาสังคม ตามมาให้รัฐบาลแก้ไขชนิดไม่มีเวลาหายใจ ยิ่งการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ กินเวลานานเท่าไร จะทำให้หนี้ครัวเรือนไทยยิ่งสูงยิ่งเปาะบางมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เป็นวิกฤตหลอนเศรษฐกิจไทยปี 2564 ไม่แพ้ความน่ากลัวของของการระบาดโควิด-19 รอบใหม่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ความเสี่ยงการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปี 2564 และน่าจะมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน (ทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ นอนแบงก์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ) ที่รวมๆ แล้วมีอยู่ประมาณ 10.68 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้ประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่าการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ลูกหนี้ดังกล่าวจะสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติหลังหมดมาตรการฯ หรือไม่

สำหรับแนวโน้มหนี้ครัวเรือนในปี 2564 นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่หนี้ครัวเรือนของไทยอาจเพิ่มขึ้นมาที่ 91.0% ต่อจีดีพี หรืออาจสูงกว่านั้น หากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิดมากกว่าที่ประเมิน และส่งผลทำให้จีดีพีในปี 2564 เติบโตน้อยกว่ากรณีพื้นฐานที่ 2.6%

จากการประเมินของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ปีนี้ประเทศไทยจะมีหนี้ครัวเรือนทะลุ 14 ล้านล้านบาท

ก่อนหน้านี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ฯ ก็ออกมาแสดงความเป็นห่วงหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด ประกอบกับหนี้เสียของหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น จากตัวเลขยอดคงค้างหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ของ ธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 2 ปี 2563 มีมูลค่า 1.52 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 19.7%

ปัญหนี้ครัวเรือนกระทบกับการกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจไทยปี 2564 การใช้มาตรการกระตุ้นการบริโภคจะมีข้อจำกัด เพราะจะเป็นตัวเร่งให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นจนคุมหนี้เสียที่จะตามมาไม่ได้

นอกจากนี้ ถึงแม้ว่ารัฐบาลไม่มีมาตรกระตุ้นการบริโภค แต่หากเศรษฐกิจยังทรุดจากโควิด-19 ลากยาวออกไป ก็ทำให้ปัญหานี้ครัวเรือนเพิ่มสูงเช่นกัน เพราะจะมีคนตกงานจำนวนมาก และต้องหันไปกู้ยืมเงินทั้งในและนอกระบบ เป็นหนี้ครัวเรือนที่หาทางชำระคืนไม่เห็น

ดังนั้น ปัญหนี้ครัวเรือน จึงเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลที่จะถอดชนวนระเบิดเวลาหนี้ครัวเรือนนี้อย่างไร เพราะถึงตอนนี้ระเบิดใกล้เวลาทำงานเต็มทีแล้ว และรัฐบาลไม่มีเวลาที่จะซุกระเบิดหนี้ครัวเรือนไว้ใต้พรมได้อีกต่อไปเหมือนที่ผ่านมา

ข่าวล่าสุด

หนี้เสียภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น SME เสี่ยงสูง แม้ปรับโครงสร้างหนี้มากกว่า