posttoday

สภาพัฒน์ติดใจแจก3พัน เข้าครม.ไม่ทันวันนี้

22 กันยายน 2563

คลังแจงแจกเงิน 3 พัน 10 ล้านคน ต้องเลื่อนเข้า ครม. สัปดาห์หน้า เนื่องจากสภาพัฒน์ ขอดูรายละเอียดก่อน

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง และโครงการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเดิม สศค.จะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันนี้ มีเหตุต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ขอพิจารณารายละเอียดในขั้นตอนการปฏิบัติก่อน

"คาดว่าจะสามารถนำกลับมาเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาได้ใหม่ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ทันกับการที่จะเริ่มเปิดให้ร้านค้าเข้ามาลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 ต.ค.63" นายลวรณ กล่าว

มาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง แจกเงิน 3,000 บาท ให้ประชาชนทั่วไป 10 ล้านคน และโครงการเพิ่มวงเงินซื้อของกินของใช้ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ 14 ล้านคน จาก 200-300 บาท เป็นคนละ 700-800 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2563 (รวมเป็น 1,500 บาทต่อคน) โดยใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ จำนวน 5.1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ คลังจะเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนผ่าน WWW.คนละครึ่ง.com ในวันที่ 1 ต.ค. 2563 ซึ่งจะต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย เน้นร้านของกินหรือซื้อของใช้นิดหน่อยตามโชวห่วยหรือธงฟ้า ส่วนร้านค้าขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคล ร้านสะดวกซื้อ เช่น ร้านเซเว่น รัฐไม่เปิดให้เข้าร่วมโครงกา

หลังจากนั้นวันที่ 16 ต.ค. 2563 เวลา 06.00-23.00 น. จะเปิดให้ประชาชนอายุ 18 ปี และไม่ถือบัตรผู้มีรายได้น้อย จองสิทธิผ่าน WWW.คนละครึ่ง.com โดยระบบจะเปิดรับต่อเนื่อง 10 ล้านคน หากวันแรกไม่เต็มก็จะเปิดรับวันต่อๆ ไปจนเต็ม

ทั้งนี้ หลังลงทะเบียนแล้วภายใน 2 วัน ผู้ลงทะเบียนจะได้รับข้อความ SMS ว่าผ่านการพิจารณาหรือไม่ ผู้ที่ผ่านก็ให้โหลดแอปเป๋าตัง ซึ่งรัฐบาลจะโอนวงเงิน 3,000 บาท ให้กับผู้ได้สิทธิ เพื่อนำไปซื้อของกินของใช้จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งร้านค้าจะมีแอปถุงเงิน โดยผู้ได้สิทธิก็ต้องโอนเงินส่วนที่จะซื้อของเข้าแอปเป๋าตังของตัวเองด้วย เพราะมาตรการนี้เป็นการร่วมจ่ายกันคนละครึ่ง

สำหรับผู้ได้สิทธิเริ่มใช้จ่ายในโครงการได้ในวันที่ 23 ต.ค. 2563 ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 โดยรัฐบาลกำหนดช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าวันละไม่เกิน 100 บาท หรือ ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งการไปซื้อสินค้าจะต้องจ่ายเงินผ่าน แอปเป๋าตังเท่านั้น โดยนำแอปเป๋าตังไปสแกนกับแอปถุงเงินของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม. จะพิจารณาโครงการแจกเงิน 3,000 บาท และแจกเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการเพิ่ม ในสัปดาห์หน้า