ชุมพล เผย ตั้งกก.อิลิท การ์ดไม่คืบ ชี้ไม่มีเอกชนสนใจชื้อต่อ

โพสต์ทูเดย์ –ชุมพลเผยตั้งคณะกรรมการฯทีโออาร์บัตรเทวดาล่ม 1 เดือนงานไม่คืบ เหตุ สตง.เมินเอี่ยว  ยันไม่มีเอกชนรายใดควักตังค์ซื้อ เชื่อต้องซบ ททท.

นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯอยู่ ระหว่างการแก้ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างกับสำนักงบประมาณ เพื่อขอให้ยกเว้นการมีผู้แทนจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)  เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการติดตามดำเนินการประมูลโครงการบัตรไทยแลนด์ อีลิท การ์ด ของบริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด (ทีพีซี) ซึ่งตามระเบียบต้องมีตัวแทนจาก 4 ฝ่าย ได้แก่ กระทรวงการท่อวงเที่ยว สตง. กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษบกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เป็นผู้ร่วมดำเนินการ

ทั้งนี้สตง.ไม่ต้องการเข้าร่วมกับคณะกรรมการฯชุดดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างการแก้ไขเรื่องนี้ โดยยอมรับว่าการตั้งคณะกรรมการฯที่ล่าช้านี้ อาจมีผลกระทบต่อการเปิดประมูล เพราะในวันที่ 17 ม.ค.นี้ จะครบกำหนดเวลา 1 เดือน ซึ่งนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ให้เวลาโครงการนี้ทำตอนขั้นตอนดังกล่าว ระยะเวลา 3 เดือน

“ขณะนี้ไม่มีเอกชนรายใดเสนอตัว จะควักเงินออกมาซื้ออีลิท การ์ด มีแต่ข่าวลือว่าจะมาแต่ไม่มีใครมาจริงซักรายเดียว ส่วนอนาคตของทีพีซีจะเป็นอย่างไงต่อ ต้องรอให้ขั้นตอนแรกมีความชัดเจน ก่อนตัดสินให้มาอยู่กับททท.ต่อไป” นายชุมพล กล่าว

สำหรับแผนการกระตุ้นท่องเที่ยวในปีนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาต่ออายุมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างเต็มที่  โดยมาตรการที่เตรียมเสนอ เช่น การผ่อนผันวีซ่าเข้าประเทศไทยฟรี การลดค่าธรรมเนียมภาษีขึ้นลงเครื่องบิน (แลนด์ดิ้งฟี) โครงการประกันนักท่องเที่ยวกรณีได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุการจราจล เป็นต้น ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวจะนำเข้าครม.ก่อนมาตรการต่างๆจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้

นอกจากนี้ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ กระทรวงจะหารือร่วมกับสมาคมด้านการท่องเที่ยว เช่น สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีเอเอ) สมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ฯลฯ ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวในปี 2553 ร่วมกัน รวมถึงการวางแผนกระตุ้นท่องเที่ยวในโครงการต่างๆตลอดปีนี้ เพื่อวางแนวทางในการจัดสรรงบประมาณปี 2554 ในลำดับต่อไป