posttoday

"ชิมช้อปใช้" มาตรการล่มดันเศรษฐกิจเหลว

19 พฤศจิกายน 2562

มาตรการ "ชิมช้อปใช้เฟส 3" ถือเป็นการเดินหมากพลาดของรัฐบาล ทำให้มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ล้มทั้งกระดาน จากของดีที่คนแย่งกันกลายเป็นของที่คนไม่อยากได้

มาตรการ "ชิมช้อปใช้เฟส 3" ถือเป็นการเดินหมากพลาดของรัฐบาล ทำให้มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ล้มทั้งกระดาน จากของดีที่คนแย่งกันกลายเป็นของที่คนไม่อยากได้

...................................

โดย...เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง

ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือน มีความผันผวนกับ มาตรการ "ชิมช้อปใช้" จากมาตรการที่คนแย่งกันอดหลับอดนอนเพื่อจองให้ได้สิทธิ์ กลายเป็นมาตรการที่คนเมินจองสิทธิ์ไม่หมด ทำให้มาตรการดูสิ้นฤทธิ์ที่กระตุ้นเศรษฐกิจไปด้วย

หากย้อนไปไม่นานเมื่อปลายเดือน ก.ย. 2562 มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 1 รับผู้ลงทะเบียน 10 ล้านคน มีประชาชนลงทะเบียนผ่านเว็บ "ชิมช้อปใช้" วัน ละ 1 ล้านคน ใช้เวลา 10 วันจองเต็มหมด

มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 1 ได้รับความสนใจมาก เพราะผู้ได้สิทธิ์ จะได้วงเงินเป๋าตัง 1 จำนวน 1,000 บาท เพื่อท่องเที่ยวในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ และ สิทธิ์เป๋าตัง 2 ด้วยการเติมเงินใส่แอปเพื่อใช้ซื้อสินค้าได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท ได้เงินคืน 15% หรือ 4,500 บาท ในทุกจังหวัดยกเว้นจังหวัดที่ตัวเองอยู่

มาตรการชิมช้อปใช้เฟส 1 มีระยะเวลาถึงสิ้นเดือน พ.ย. 2562 โดยรัฐบาลคาดหวังว่า วงเงินเป๋าตัง 1 จำนวน 1,000 บาท ที่ได้ฟรี จะเป็นตัวกระตุ้นให้คนเดินทางออกไปเที่ยว และเงินเป๋าตัง 2 ที่คนได้สิทธิ์ต้องเติมเงินตัวเอง เพื่อจ่ายซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 1 แสนร้านค้า จะเป็นเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ

แต่เมื่อถึงเวลาที่ผู้ได้สิทธิ์เริ่มใช้เงิน ปรากฎว่า ใช้เงินแต่ในเป๋าตัง 1 ไม่ใช้เป๋าตัง 2 หรือ พูดง่ายๆ ว่า ใช้แต่เงินที่ได้ฟรี ส่วนเงินที่ต้องควักจ่ายเองไม่มีใครใช้

ปัญหาดังกล่าว ทำให้รัฐบาลออก มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 2 เมื่อปลายเดือน ต.ค. 2562 โดยมีการรับลงทะเบียนเพิ่มอีก 3 ล้านคน มีการเพิ่มแรงจูงใจคนใช้เงินในเป๋าตัง 2 ในส่วนที่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท จะได้เงินคืน 20% เท่ากับหากผู้ใช้สิทธิ์ในเป๋าตัง 2 เต็ม 5 หมื่นบาท จะได้เงินคืนจากรัฐบาลถึง 8,500 บาท พร้อมทั้งมีการขยายอายุของมาตรการไปจนถึงสิ่้นเดือน ธ.ค. 2562

ปรากฎว่า ในส่วนของการลงทะเบียนคนยังแห่ลงเต็มอย่างรวดเร็วเหมือนเฟส 1 ที่ผ่านมา แต่ในส่วนของการใช้เงินยังเหมือนเดิม คือ ใช้แต่วงเงินเป๋าตัง 1 จนหมดเกลี้ยง แต่เป๋าตัง 2 กลับมาคนใช้น้อยมาก

จากข้อมูลของกระทรวงการคลัง มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 1 และ 2 มีผู้ได้สิทธิ์ 13 ล้านคน มีการใช้จ่ายเงินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท กว่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นการใช้วงเงินในเป๋าตัง 1 ที่รัฐบาลให้ฟรี 1,000 บาท แต่เป๋าตัง 2 กลับมคนเติมเงินใช้ซื้อสินค้าไม่ถึง 1,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้จะมีคนใช้เงินในเป๋าตัง 2 จำนวน 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่ม 0.2-0.3%

จากข้อมูลของ มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 1 และ 2 ที่ออกมา รัฐบาลก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ไม่ออกฤทธิ์อย่างที่คาดหวังไว้ ทำให้ไม่สามารถช่วยให้เศรษฐกิจไทยกระเตื้องขึ้น และขยายตัวได้ 3% อย่างที่รัฐบาลฝันอยากให้เป็น

อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลยังฝืนที่จะออก มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 3 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนทำให้มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ทั้งหมดถึงกาลอวสาน มีมาตรการก็เหมือนไม่มี เพราะยิ่งออกมากยิ่งไม่น่าสนใจ

สำหรับ มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 3 ให้การลงทะเบียนเพิ่มอีก 2 ล้านคน ให้สิทธิ์ได้แต่เป๋าตัง 2 ที่ต้องเติมเงินซื้อสินค้า และขยายเวลาของมาตรการไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค. 2563 และปลดล็อกให้ใช้จ่ายได้ทุกจังหวัด

เมื่อไม่ได้สิทธิ์เป๋าตัง 1 ที่รัฐแจกเงินฟรีให้ 1,000 บาท ทำให้คนสนใจลงทะเบียนเฟส 3 น้อยลง โดยการลงทะเบียนเมื่อวันที่ 14-16 พ.ย. ให้บุุคคลทั่วไปลงทะเบียน 1.5 ล้านคน ถึงจะเต็ม ส่วนอีก 5 แสนคน รัฐบาลให้สิทธิ์ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี เปิดให้จองวันแรก 17 พ.ย. 2562 มีคนจองแค่ 9 หมื่นคน และวันที่ 18 พ.ย. ล่าสุด มีคนจองอีก 3 หมื่นคน ยังเหลืออีก 3.5 แสนคน ที่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายวันถึงจะจองเต็ม ซึ่งทำให้มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เริ่มดูไม่ดีไร้มนต์ขลัง

กระทรวงการคลังรายงานตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.จนถึงวันที่ 17 พ.ย. ผู้ได้สิทธิ์ชิมช้อปใช้ มีการใช้จ่ายรวม 13,117 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายจากเป๋าตัง 1 จำนวน 11,569 ล้านบาท สำหรับเป๋าตัง 2 มีผู้เริ่มใช้สิทธิ์จำนวน 117,859 ราย มียอดการใช้จ่ายรวม 1,548 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายละประมาณ 13,134 บาท โดยเพิ่มขึ้นวันละกว่า 100 ล้านบาท

จากตัวเลขที่ฟ้องชัดว่า มาตรการชิมช้อปใช้ ที่ตั้งเป้าให้การใช้เงินจากเป๋าตัง 2 เป็นเม็ดเงินก้อนโตเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจดับสนิท จำนวนผู้ใช้เงินจากเป๋าตัง 2 คิดเป็นแค่ 1% ของผู้ได้สิทธิ์ จำนวนเงินก็ยังห่างไกลจากเป้าที่ตั้งไว้ไกลมาก

การขยายเวลามาตรการไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค. 2563 กลายเป็นจุดอ่อนของมาตรการ ชิมช้อปใช้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ต้องการบีบให้คนใช้เงินในปีนี้ แต่เมื่อมีการขยายเวลาออกไปถึงต้นปีหน้า ทำให้คนไม่จำเป็นต้องใช้เงิน

ถึงจุดนี้จะบอกว่า มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ล้มเหลว ก็ดูเป็นคนใจร้ายใจดำเกินไป แต่น่าจะบอกได้ว่ามาตรการ "ชิมช้อปใช้" ไม่ประสบความสำเร็จ ยิ่งขยายเฟสยิ่งแย่ ยิ่งผ่อนเงื่อนไขยิ่งไม่น่าสนใจ ทำให้มาตรการ "ชิมช้อปใช้" วันนี้อยู่ในสภาพเรือล่ม ตัวมาตรการเองยังไปไม่รอด ส่งผลให้มาตรการนี้ดันเศรษฐกิจเหลวไปด้วย

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”