posttoday

บลจ.บีแคปส่งกอง BCAP-CLEAN ขาย IPO 28 มิ.ย.- 6 ก.ค. 64

29 มิถุนายน 2564

บลจ.บีแคปส่งกอง BCAP-CLEAN ขาย IPO 28 มิ.ย.- 6 ก.ค. 64 ชูลงทุนนวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมรับเทรนด์โลก

นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล หรือ BCAP เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกหรือ IPO กองทุนเปิดบีแคป คลีน อินโนเวชั่น (BCAP-CLEAN) ในวันที่ 28 มิ.ย.-2 ก.ค.2564 โดยมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในต่างประเทศ ในธุรกิจที่เกี่ยวกับนวัตกรรมเพื่อช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

กองทุน BCAP-CLEAN ถือเป็นกองทุนที่ตอบโจทย์การลงทุนแห่งศตวรรษ กับนวัตกรรมเพื่อความอยู่รอดของโลก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีกว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจก( CO 2) และอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นคือวิกฤตที่เรากำลังเผชิญอยู่ เพราะก๊าซ CO 2 เป็นสาเหตุหลักของปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งผู้นำทั่วโลกได้ลงนามในสนธิสัญญาปารีสที่จะผลักดันการแก้ปัญหามลภาวะนี้ โดยภายใน 20 ปี ทุกประเทศในโลกจะมีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก( CO 2) เป็นศูนย์ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากเป็นนโยบายที่ทุกประเทศต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญา

“กองทุน BCAP-CLEAN มีนโยบายที่เน้นกระจายการลงทุนในหลากหลายมิติให้ครอบคลุมนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง และลงทุนในนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มพลังงานทดแทน แต่ครอบคลุม clean climate innovation ในทุกด้าน เช่น การผลิตไฟฟ้าหมุนเวียน การขนส่งด้วยพลังงานสะอาด เทคโนโลยีสะอาดในการผลิตภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสะอาดในภาคการเกษตรและปศุสัตว์ และ เศรษฐกิจหมุนเวียนที่เน้นประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรรวมทั้งเป็นกองทุน Thematic ที่มุ่งเน้นธีมการลงทุนที่เป็นเชิงโครงสร้าง โดยเลือกธุรกิจที่พลิกโฉมด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อรับมือกับ Disruption ในอนาคต”นางเมธ์วดีกล่าว

สำหรับจุดเด่นของกองทุน BCAP–CLEAN จะกระจายการลงทุนในกองทุน Active และ ETF ทั่วโลก ครอบคลุม 400 หลักทรัพย์ในธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยสัดส่วนจะให้น้ำหนักการลงทุนในเอเชียแปซิฟิก 43% รองมาเป็นอเมริกาเหนือ 27% ยุโรป 18% และอื่นๆ เนื่องจากมองว่า เอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดใหญ่ที่มีโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน

ทั้งนี้กองทุน BCAP-CLEAN ไม่มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผล ส่วนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนผ่านผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน และธนาคารกรุงเทพได้ทุกวันทำการ ลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท/ครั้งโดยผู้จัดการกองทุนคาดว่ากองทุนหลักๆ ที่จะลงทุนประกอบด้วย :

1. Invesco Global Clean Energy ETF (PBD) 20 %

2. Invesco WilderHill Clean Energy ETF (PBW) 20 %

3. KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF (KGRN) 20 %

4. Amplify Lithium & Battery Technology ETF (BATT) 15 %

5. iShares Electric Vehicles & Driving Technology UCITS ETF (ECAR) 15 %

6. Rize Sustainable Future of Food UCITS ETF (FOOD) 5%

7. BGF Circular Economy (BGBCEIU) 5%