posttoday

กองทุนบัวหลวง ขายดีกองทุน SSF

07 เมษายน 2563

กองทุนบัวหลวงเผยกองทุน 'BEQSSF' กระแสตอบรับดี พร้อมเสนอขายต่อ 7-8 เม.ย. แนะนำลงทุนหุ้น 10 ปี มีโอกาสให้ผลตอบแทนคุ้มค่า

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า จากการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) "กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นไทยเพื่อการออม" หรือ 'BEQSSF' ไปแล้ว 3 วัน คือ ช่วงวันที่ 1-3 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนให้การตอบรับกองทุนนี้เป็นอย่างดี ทั้งจะเปิดเสนอขาย IPO ต่อเนื่องอีก 2 วัน คือ วันที่ 7-8 เมษายน นี้

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 เฉพาะวงเงินพิเศษ ไม่เกิน 200,000 บาท ยังสามารถไปลงทุนได้ที่ธนาคารกรุงเทพ รวมทั้งตัวแทนขายหน่วยลงทุนทุกแห่ง

นายวศิน กล่าวว่า ผู้ลงทุนที่จะลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Saving Fund หรือ SSF พิเศษ) ต้องทราบ ด้วยกัน 5 ข้อ คือ

1. ผู้ลงทุนต้องเป็นบุคคลธรรมดา เพราะว่า ภาครัฐตั้งใจจะให้นำรายการนี้ไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา

2. กองทุนนี้ มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงต้องมีความสามารถในการยอมรับ ความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นได้

3. เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จะต้องลงทุน 10 ปี จึงจะสามารถขายหน่วยลงทุนนี้ได้ ดังนั้น ผู้ลงทุนจะต้องวางแผน อีกทั้งมั่นใจว่า จะไม่ใช้เงินก้อนนี้ในช่วงระยะเวลา 10 ปี นับจากนี้ไป

4. วงเงินที่รัฐบาลอนุญาตให้ลงทุนผ่านกองทุน SSF พิเศษ คือ 200,000 บาท โดยไม่ขึ้นอยู่กับวงเงินลดหย่อนใดๆ เลย และไม่ขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้ลงทุนด้วย

5. หากต้องการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก SSF พิเศษ จะต้องลงทุน ภายในวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2563 นี้ เท่านั้น นายวศิน กล่าวว่า มีผู้ลงทุนสอบถามเข้ามามากพอสมควร ว่า การลงทุนใน SSF พิเศษ คุ้มค่าหรือไม่ น่าลงทุนหรือไม่ เพราะต้องใช้เวลา 10 ปี ในประเด็นนี้ ขอให้คำแนะนำว่า ผู้ลงทุนต้องรู้และเตรียมใจไว้ก่อน ว่า จะไม่ใช้เงินก้อนนี้ในช่วงระยะเวลา 10 ปีจากนี้ เมื่อมั่นใจแล้ว ให้คิดว่า การลงทุนครั้งนี้ เหมือนการ ปลูกต้นไม้ ที่เรานำต้นกล้าลงไปปักบนพื้นดิน แล้วรอเวลาให้ต้นไม้เติบโต ด้วยเหตุนี้ จึงอยากให้ผู้ลงทุน มองว่า การลงทุนในกองทุน BEQSSF ซึ่งเป็นกองทุน SSF พิเศษครั้งนี้ คุ้มค่าและมีโอกาสมากกว่า

“หลายคน ถามว่า จะลงทุนในหุ้นเวลานี้ ก็ยังกลัวๆ กล้าๆ แล้วจะมั่นใจได้ 100% หรือไม่ว่า จะกำไร ก็ต้องบอกกับผู้ลงทุนว่า ในทุกๆ ช่วงของเศรษฐกิจ เวลาเราตัดสินใจลงทุนไป จะเกิดผลด้านใดด้านหนึ่ง อาจจะสมหวัง หรือผิดหวัง หรือเฉยๆ หากลงทุนแล้ว ราคาขึ้นมากกว่าที่เราซื้อไว้ เราก็ดีใจ ถ้าเกิดราคาต่ำกว่า เราก็รู้สึกว่า ผิดหวัง แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราไม่ลงทุน แล้วราคาขึ้น เราอาจรู้สึกเสียดาย หรืออาจจะนึกในภายหลังว่า รู้อย่างนี้น่าจะลงทุนแล้ว สำหรับกองทุน BEQSSF ใช้เวลาลงทุน 10 ปี ดังนั้น ก็น่าจะ มีโอกาสสมหวังมากกว่าผิดหวัง” นายวศิน กล่าว

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน BEQSSF หรือติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ กองทุนบัวหลวง โทร. 0 2674 6488 กด 8 หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ตัวแทนขายของกรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ ภัทร บจ.หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรี และ บจ.หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา