posttoday

ต้นทุนของการปิดสถานศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

09 กุมภาพันธ์ 2564

คอลัมน์ ทันเศรษฐกิจ โดย...ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทัศนีย์ สติมานนท์ ศูนย์ศึกษาพัฒนาการเศรษฐกิจสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)www.econ.nida.ac.th; [email protected]

ต้นทุนของการปิดสถานศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้รัฐบาลของ 192 ประเทศทั่วโลกต้องสั่งปิดสถานศึกษา จากข้อมูลของยูนิเซฟ (UNICEF) และธนาคารโลก (World Bank) นั้นพบว่า การปิดสถานศึกษามีผลกับผู้อยู่ในวัยเรียนกว่าร้อยละ 90 คิดเป็นจำนวน 1.5 พันล้านคนทั่วโลก และมากกว่าหนึ่งในสามของคนกลุ่มนี้ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาทางไกลได้ โดยยูนิเซฟมีความกังวลเป็นอย่างสูงว่า การปิดสถานศึกษาจะขัดขวางการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะอื่นที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 รวมถึงอาจทำให้เด็กในกลุ่มเปราะบางมีโอกาสแต่งงานก่อนวัยอันควร (child marriage) หรือเข้าสู่ตลาดแรงงานด้วย (child labor)

ความเจริญก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้หลายประเทศพยายามผลักดันให้เกิดการศึกษาทางไกลในช่วงการมีโรคระบาดนี้ อย่างไรก็ตาม ความพร้อมด้านกายภาพไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมต่อการเรียนของเด็ก คอมพิวเตอร์ หรือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมทั้งความพร้อมของผู้ปกครองทั้งด้านเวลาและความสามารถในการช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กนั้น มีระดับความพร้อมที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละครอบครัวทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากผลกระทบทางลบที่เด็กในครอบครัวยากจนได้รับนั้นมากกว่าผลกระทบที่เด็กในครอบครัวฐานะดีได้รับ

จากข้อมูลการสำรวจในประเทศเยอรมันพบว่า จำนวนชั่วโมงเรียนต่อวันเฉลี่ยของเด็กลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อต้องเรียนทางไกลที่บ้าน ทำให้การเรียนรู้ของเด็กลดลง นอกจากนี้ การปิดสถานศึกษายังทำให้เด็กกลุ่มหนึ่งขาดโอกาสได้รับการดูแลด้านโภชนาการเนื่องจากครอบครัวไม่สามารถจัดหาอาหารที่เหมาะสมให้กับเด็กได้ โดยร้อยละของครัวเรือนกลุ่มนี้ในสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกานั้นสูงถึง ร้อยละ 6.6, 5.5 และ 14.0 ตามลำดับ การปิดสถานศึกษาจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการสะสมทุนมนุษย์ของเด็กทั้งในเรื่องการศึกษาและสุขภาพ

เอกสารของธนาคารโลกที่คำนวณผลกระทบจากการปิดสถานศึกษา ทำให้การสะสมทุนมนุษย์ของคนวัยเรียนลดลง และส่งผลสืบเนื่องต่อรายได้ในอนาคต โดยใช้สมมติฐานต่าง ๆ เพื่อคำนวณรายได้ที่ประเทศจะสูญเสียในอนาคตกลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบันซึ่งคิดเทียบกับรายได้ประชาชาติของประเทศ (GDP) พบว่า โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละประเทศจะสูญเสียรายได้ในอนาคต เท่ากับ ร้อยละ 15 ของรายได้ประชาชาติ ด้วยต้นทุนการปิดสถานศึกษาที่สูงเช่นนี้ ยูนิเซฟจึงแนะนำให้มีการปิดสถานศึกษาเพียงกรณีที่ระดับการแพร่ระบาดของโรคที่สูงในท้องถิ่นนั้น ๆ หรือเมื่อระบบสาธารณสุขไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้แล้ว

หลายประเทศตระหนักถึงผลเสียของการปิดสถานศึกษาจึงได้พยายามแก้ปัญหา ซึ่งแม้จะใช้เงินเป็นจำนวนมากแต่จะทำให้ลดการสูญเสียรายได้ของประเทศในอนาคต อย่างไรก็ตามเนื่องจากรัฐมีงบประมาณที่จำกัด จึงควรเน้นให้ความช่วยเหลือกับเด็กในครอบครัวที่มีรายได้น้อย ตัวอย่างการลดผลกระทบของการปิดสถานศึกษา ได้แก่ การส่งเสริมให้มีการเรียนทางไกลซึ่งอาจเป็นการเรียนรู้เนื้อหาจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของโรงเรียนหรือของหน่วยงานกลางของประเทศ และในบางประเทศได้มีการจัดส่งอาหารพร้อมทั้งสมุดแบบฝึกหัดให้กับเด็กเพื่อให้เด็กที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังคงสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จากงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การส่งข้อความเตือนผู้ปกครอง (reminder) เพื่อให้อ่านหนังสือให้เด็กฟัง รวมถึงการถามล่วงหน้าถึงจำนวนชั่วโมงที่ผู้ปกครองวางแผนการอ่านหนังสือให้เด็กฟัง (commitment device) ทำให้ผู้ปกครองอ่านหนังสือให้เด็กฟังเพิ่มขึ้นและทำให้คะแนนทดสอบของเด็กเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ นักวิจัยบางท่านได้เสนอให้ครูใช้วิดีโอคอลเพื่อสื่อสารกับเด็กและผู้ปกครองซึ่งเป็นเสมือนการเยี่ยมบ้านนั่นเอง

สำหรับมาตรการที่สำคัญในระยะกลางและระยะยาวเพื่อลดต้นทุนของการปิดสถานศึกษาและลดความเหลื่อมล้ำได้แก่ เมื่อสามารถเปิดสถานศึกษาได้ตามปกติแล้ว ครูควรเอาใจใส่และให้ความช่วยเหลือกับเด็กที่ไม่สามารถเรียนทางไกลได้เป็นพิเศษโดยมีการทบทวนเนื้อหาที่สอนในช่วงปิดสถานศึกษาให้กับเด็กกลุ่มนี้โดยเฉพาะ รวมทั้งรัฐควรตระหนักถึงความสำคัญของทักษะการใช้เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ และจัดหาโครงสร้างพื้นฐานซึ่งคือ การกระจายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้กับท้องถิ่นที่ห่างไกล

ขณะนี้โรงเรียนส่วนใหญ่ในประเทศไทยได้เปิดให้มีการเรียนแล้ว แต่สำหรับบางพื้นที่ที่มีข้อจำกัด นอกจากการส่งเสริมให้เรียนทางไกลโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่แล้ว รัฐยังควรให้ครูคอยติดตามเด็กที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ อาจมีการส่งแบบฝึกหัดให้นักเรียนยังคงได้ทบทวนความรู้ หรือมีการติดต่อสื่อสารกับเด็กหรือผู้ปกครองเพื่อกระตุ้นให้ยังคงมีการเรียนรู้ และควรมีการวางแผนเพื่อให้เด็กที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สามารถเรียนทันเพื่อนคนอื่น รวมทั้งควรขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วย ... แม้เงินลงทุนจะมีมูลค่าไม่น้อย แต่เชื่อเถอะค่ะว่า การลงทุนในทุนมนุษย์จะเป็นการลงทุนซึ่งให้ผลตอบแทนกับประเทศที่คุ้มค่าค่ะ