posttoday

จะทยอยลงทุนซื้อกองไหนดี?

24 กรกฎาคม 2556

โดย...เสกสรร โตวิวัฒน์,CFP

โดย...เสกสรร โตวิวัฒน์,CFP

เดี๋ยวนี้แนวคิดการทยอยลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Averaging) เป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น หลายๆ คนเปลี่ยนจากการทยอยฝากเงินรายเดือนมาซื้อกองทุนแทน เพราะคิดแล้วว่ามันก็เหมือนกัน แค่เปลี่ยนจากบัญชีเงินฝากมาเป็นบัญชีกองทุน

จะว่าไป เหมือนก็เหมือนตรงวิธีการ แต่เอาล่ะสิ เงินฝากมีบัญชีให้เลือกแค่ 2-3 แบบ กองทุนมีเป็นร้อย!!!

กองไหนดีล่ะทีนี้ พี่น้อง???

ขอแยกประเด็นให้เห็นชัดตรงกันก่อน เพื่อให้การเลือกกองทุนต่อไปทำได้ง่ายขึ้นครับ

การทยอยลงทุน จะรายเดือน รายสัปดาห์ หรือรายไตรมาส

มันเป็นแค่วิธีการ

เป็นวิธีการเพื่อให้เกิดวินัยการลงทุน ไม่ต้องใช้เงินเยอะในแต่ละครั้ง ไม่ลุ้นตลาดหุ้น หาจังหวะลงทุนที่ไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่ และที่สำคัญ เป็นการตัดอคติในใจ ตัดความกลัว ความโลภ ออกจากการตัดสินใจว่าจะซื้อไม่ซื้อในแต่ละครั้ง

ในเมื่อเป็นเพียงวิธีการจึงไม่มีคำตอบตายตัวว่าจะทยอยลงทุนให้ซื้อกองทุนแบบไหนดี

เพราะ กองทุนแบบไหนก็ทยอยซื้อได้ครับ จะเหมาะไม่เหมาะ มันก็ขึ้นกับโจทย์ของแต่ละคนต่างหาก หรือที่ภาษานักวางแผนเขาชอบใช้คำทางการว่าวัตถุประสงค์การลงทุนนั่นแหละ

กรณีทยอยลงทุน โจทย์ง่ายๆ ที่เห็นกันบ่อยๆ

ถ้าจะเก็บเงินยาว ยังไม่มีแผนการใช้ เป็นเงินเย็น (ส่วนใหญ่ที่ย้ายจากทยอยฝากรายเดือนมาซื้อกองทุนจะเข้าข่ายนี้ซะครึ่ง) ก็ดูว่ายาวนี่ 3-5 ปีขึ้นไปใช่ไหม รับความเสี่ยงได้ไหม อยากมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงๆ ใช่ไหม ถ้าใช่ กองทุนหุ้น หรือกองทุนผสมเน้นหุ้นครับ กองทุนแนะนำ (ที่ไม่ใช่ RMF LTF) ผมขอเลือก บัวแก้ว กองทุนหลักของเรา หรืออยากหวือหวามากๆ บัวหลวงทศพล ก็ได้ครับ ส่วนบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล บัวแก้วปันผล บัวหลวงร่วมทุน ซึ่งจ่ายปันผลระหว่างทางออกมา โดยส่วนตัวผมแล้วมองว่าไม่ค่อยเหมาะกับการทยอยเก็บเงินผ่านกองทุนด้วยวิธีนี้ เพราะเงินของคุณจะวิ่งไปวิ่งมาระหว่างการซื้อรายเดือน กับจ่ายปันผลคืนทุกไตรมาส/ครึ่งปี ที่จะต้องเสียภาษี (ถ้าเลือกหัก ณ ที่จ่าย ก็ 10%) ไม่ใช่การทยอยสะสมแท้จริง และพอร์ตการลงทุนของบัวแก้วปันผล บัวหลวงร่วมทุน ก็เหมือนๆ กับบัวแก้วครับ แต่ถ้าใครชอบสิริผลบรรษัทภิบาลมากๆ อยากใช้วิธีนี้ก็ไม่ว่ากันครับ ทางใครทางมัน แต่ขอให้เข้าใจข้อจำกัดของการจ่ายปันผลกับวิธีลงทุนแบบนี้ไว้ครับ

ถ้าจะเก็บไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้เงินต้นหาย แต่อยากได้ผลตอบแทนดีๆ (อีกครึ่งก็จะอยู่กลุ่มนี้ล่ะ ผมเชื่อ) หรือ อยู่ในข่ายอาจจะดึงมาใช้เมื่อไรก็ได้ หรือมีแผนการใช้มีเวลาที่แน่นอน ในอีกไม่นานก่อน 3 ปี ผมแนะนำว่าอย่าไปคาดหวังผลตอบแทนสูงๆ จากเงินส่วนนี้ครับ เพราะโจทย์หลักของเราอยู่ที่การดูแลเงินต้น ถ้าอยากใช้กองทุนรวมเป็นทางเลือก ก็โปรดเข้าใจว่ากองทุนนั้นไม่ได้รับประกันเงินต้นเหมือนเงินฝากธนาคาร แต่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าได้ ขึ้นกับวิธีการลงทุนและระยะเวลาที่ลงทุน

ถ้าห่วงเงินต้นมากก็อาจเลือก บัวหลวงตราสารหนี้ ซึ่งแม้จะไม่มีการรับประกันเงินต้นหรือผลตอบแทนขั้นต่ำ แต่ด้วยนโยบายที่เป็นกองทุนตราสารหนี้ไม่มีการลงทุนในหุ้นเลย ความผันผวนน้อยกว่ากองทุนที่มีหุ้นแน่นอน แต่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก ไม่เสียค่าธรรมเนียมเวลาขายออก

ถ้าห่วงเงินต้นน้อยลงมาหน่อย ขอแนะนำ บีเฟล็กซ์ กองทุนผสมที่เน้นตราสารหนี้ และในบางจังหวะจะนำเงินบางส่วนไปลงทุนหุ้น (ย้ำว่าบางจังหวะที่เห็นว่าเหมาะสม และเป็นบางส่วนประมาณไม่เกิน 20-25%) เราคาดหวังว่ากองทุนนี้น่าจะมีโอกาสให้ผลตอบแทนกับผู้ถือมากกว่าเงินฝากประจำ 1 ปี ได้ในระดับหนึ่ง และจากอดีตที่ผ่านมาของ|บีเฟล็กซ์ก็จะเป็นเช่นนั้นครับ

ก่อนจบ

กองทุนดีๆ ที่เหมาะกับเรามีมากมาย แต่โจทย์ใครก็โจทย์มันครับ ศึกษานโยบายและความเสี่ยงของกองให้ชัดเจนก่อนลงทุนนะครับ