posttoday

“ใบเฟิร์น พัสกร” เคลียร์ดราม่า "เจโม่" ตอนรู้ช็อกจนมือสั่น! จากนี้ต่างคนต่างอยู่

19 กุมภาพันธ์ 2563

“ใบเฟิร์น พัสกร” พูดหมดเปลือก..ลั่นช็อกจนมือสั่น! โทรเคลียร์ทั้งคู่จากนี้ต่างคนต่างอยู่

เป็นเรื่องราวดราม่าที่หลายคนต่างติดตามกัน สำหรับเรื่องราวความสัมพันธ์ของ “ใบเฟิร์น พัสกร” และหนุ่ม “เจโม่ จาตุรนต์” ที่ได้มีคนออกมาแฉว่าฝ่ายชายนั้นมีแฟนอยู่แล้ว และคบกันมา 10 ปี และทาง “ใบเฟิร์น” ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน และทางฝ่ายชายก็ยอมรับผิดทุกอย่าง ล่าสุดสาว “ใบเฟิร์น” ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นแบบหมดเปลือกว่า

“เริ่มเล่าตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันนั้นไม่มีอะไรพิเศษมาก วันนั้นตอนเย็นก็ไปทานข้าวกับพี่โม่เป็นเรื่องปกติ เราสองคนไม่ได้เป็นหวาน และวันนั้นก็แค่ไปทานข้าวจริงๆ พอไปนั่งทานข้าวสักพักก็เห็นว่าเขาโพสต์รูปที่ทุกคนเห็นกัน ถามว่ารู้สึกอะไรที่เขาโพสต์รูปไหม คือมันก็คงเป็นโพสต์เพราะวันวาเลนไทน์นี่แหละ อันนี้คิดในใจนะ จากนั้นเขาก็พูดว่าเป็นครั้งแรกที่เขาโพสต์ เขาคงอยากให้วันนี้มันเป็นโมเมนต์อะไรสักอย่าง ซึ่งพอเห็นว่าเขาโพสต์ เราก็เลยลงสตอรี่เราด้วยเหมือนกัน อารมณ์แบบ มึงโพสต์กูก็โพสต์ เพราะไม่ได้อะไรอยู่แล้ว"

วันนั้นกลับไปบ้านก็เริ่มเช็กคอมเมนต์ ซึ่งวันที่ 14 ก็ไม่มีอะไร มีแต่คนเข้ามาแซว เข้ามาเชียร์ จนกระทั่งวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็เริ่มเห็นคอมเมนต์ในอินสตาแกรม เป็นคอมเมนต์แปลกๆ ประมาณว่า ไปเลิกกันก่อน เราก็รู้สึกเอ๊ะนะกับคอมเมนต์ตรงนี้ ก็เริ่มตกใจเหมือนกัน”

”อย่างที่ทุกคนทราบเลยค่ะ ประมาณว่าเลิกทางนั้น เลิกทางนี้ก่อน เราจำรายละเอียดไม่ได้ แต่ไม่ได้ลบนะ แค่เห็นแล้วตกใจเฉยๆ งงๆ แล้วรู้สึกว่าอะไรอีกเนี่ย จากนั้ยก็เริ่มเข้าไปดูในอินสตาแกรมพี่โม่ว่ามีไหม ปรากฎว่ามีค่ะ เป็นคอมเมนต์ทำนองเดียวกันเลย คนเดียวกันกับที่เข้ามาคอมเมนต์เราด้วย แต่ภาษาที่ใช้รุนแรงกว่าที่คอมเมนต์เรามาก ตอนนั้นก็ยังงงอยู่เลยลองเข้าไปทักไปในอินสตาแกรมของคนที่ดูน่าจะรู้เยอะสุด"

"คือพอเราเข้าไปกำลังจะทัก เราก็เห็นเขาส่งข้อความมาหาเราก่อนแล้วเหมือนกัน เป็นข้อความเหมือนที่เขาพิมพ์มาประมาณนั้นเลย พอเราเห็นแบบนั้นเราเองก็พูดอะไรไม่ถูก ได้แต่พูดไปว่า 'มันจริงเหรอคะ จริงเหรอคะ มันยังไงเหรอคะ' คือทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน พอเราทักไปคุยกับที่คอมเมนต์มาบอก ทางนั้นเขาก็เริ่มเล่ารายละเอียดให้ฟังว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และถ้าหากเราอยากรู้อะไรเพิ่มเติมก็ให้ลองไปคุยกับน้องสาวเขาดู ซึ่งน้องสาวเขาก็คือคนที่โพสต์นั่นแหละค่ะ จากนั้นทางฝั่งเขาก็หายไปพักหนึ่งและก็ให้เบอร์ติดต่อมา ซึ่งพอเราได้เบอร์ปุ๊บก็โทรหาเขาทันทีเลยค่ะ”

"ตอนนั้นก็ไม่รู้นะว่าเขารู้หรือเปล่าว่าเราจะโทรไป แต่เราก็คือโทรไปถามรายละเอียดจากเขานั่นแหละ ทางเขาเองก็เล่าให้ฟังตามสิ่งที่เขาพิมพ์ไว้เหมือนกับที่ทุกคนเห็น จากนั้นเราก็เลยบอกกับเขาไปตามตรงว่า เราไม่รู้เลย ไม่เคยรู้เลยจริงๆ และตอนนี้เราเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ยังงงๆ อยู่คนเดียว ไม่รู้จะจับต้นชนปลายยังไง ณ ตอนนั้นทำได้แค่พูดคำว่า 'ขอโทษ' ขอโทษที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน รวมถึงฝากไปขอโทษผู้หญิงอีกคนด้วย เนื่องจากว่าเราไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ถ้าหากรู้เรื่องนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน"

"พอได้คุยกับทางน้องสาวเขา ได้ขอโทษกันเสร็จเรียบร้อย ตอนนั้นเรายังไม่รู้นะคะว่าเขาโพสต์อะไร จนกระทั่งเขาบอกกับเราว่า 'ขอโทษนะคะ เขาโพสต์เรื่องนี้ไปแล้วด้วยอารมณ์ของเขา' วินาทีนั้นคำเดียวที่เราคิดในใจก็คือ 'ชิบหายแล้ว' แต่ก็บอกเขาไปว่า 'ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร มันแก้อะไรไม่ได้แล้ว' จากนั้นเขาก็เตือนว่าเรื่องมันเริ่มเป็นข่าวแล้ว คือเขาคุยกัยเราดีมาก เราทั้งคู่คุยกันด้วยดี รวมถึงเรายังบอกขอบคุณเขาด้วยที่เตือนมา ซึ่งเรามารู้อีกภายหลังว่า จริงๆ เขาพยายามเตือนมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่เป็นเราเองที่ไม่เห็น เพราะเราไม่เคยอ่านไดเรกต์เมสเซจ เนื่องจากระบบมันไม่เคยแจ้งเตือน เราก็เลยคิดว่ามันคงเป็นดวงของเราเองด้วยมั้งที่ทำให้เรื่องราวกลายเป็นแบบนี้ เพราะเราไม่เคยอ่านไดเรกต์เมสเสจ"

และในจังหวะนั้นเหมือนทางเจโม่ก็เริ่มรู้เพราะอยู่ดีๆ นางก็โทรมา แป๊บเดียวเอง นางโทรมาหาเราตอนนั้นเราก็ถามตรงๆ เลยว่า 'พี่โม่เรื่องมันเป็นไง มันจริงไหม' เขาก็ยอมรับว่าเรื่องมันก็เป็นแบบที่รู้นั่นแหละ เขาก็ยังคุยกันอยู่ เพียงแต่ว่าไม่ได้ไปมาหาสู่กันแล้วเท่านั้นเอง เขาขอโทษ เขาไม่ได้แก้ตัวอะไรใดๆ แต่เล่าว่ายังคุยกันอยู่ในแชทจริงๆ แต่ไม่ได้ไปเจอ"

"เขาไม่ได้พูดว่าคบซ้อน ตอนนั่นเราไม่มีคำว่าคบซ้อนในหัวนะ เขาพูดแค่ว่า มันก็เป็นตามนั้น เขายังคุยกันอยู่ แต่ว่าไม่ได้ไปเจอ ก็ห่างๆ”

”ถามว่าคิดว่าถูกหลอกไหม ก็มันแน่นอนอยู่แล้ว มันชัดเลย เราไม่รู้ว่าเจตนาเขาตั้งใจหรืออะไร แต่แค่รู้สึกว่าวันนี้เราโดนกับตัวเองแล้ว ก็เสียใจนะ เพราะว่าเราไม่ได้คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น มันก็ช็อก ทำตัวไม่ถูก เสียใจแต่ ณ ตอนนั้นที่เขาพูดมาเราก็ไม่ได้คุยกันเยอะ เพราะเราฟังข้อมูลจากน้องเขามาแล้ว เราก็รู้สึกไม่อยากคุยอะไรแล้ว”

”ความสัมพันธ์ของเรากับเจโม่เริ่มต้นจากพี่เขาเป็นเพื่อนในแก๊งที่เราอยู่รู้จักกันมาก่อนหน้านี้ค่ะ แต่เราสองคนรู้จักกันได้ไม่นาน เพิ่งรู้จักช่วงปลายๆ ตุลาคม ถึงเดือนกันยายนประมาณนั้น ส่วนเรื่องไทม์ไลน์เราจำไม่ได้ แต่หลังจากที่เขากลับมาจากออสเตรียเขาก็มาช่วยงานพี่ที่รู้จัก เขาอยู่ร้านอาหารที่ทุกคนทราบ ซึ่งพี่คนนี้ที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร เฟิร์นก็เป็นแก๊งเดียวกันจะได้เจอกันอยู่แล้ว และจากนั้นเฟิร์นก็เจอเขามากขึ้น ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจเลยนะ เฉยๆ ด้วยซ้ำ แต่พอมันอยู่ในแก๊งเดียวดกันได้เจอกันบ่อย ก็เริ่มรู้สึกดีกับเขาค่ะ"

“เราก็ไม่เคยถามเขาเรื่องแฟนตั้งแต่ตอนแรกที่คุยกันเขาก็พูดอยู่ว่าเขาไม่มีใคร เขาบอกอาจจะมีคนคุยบ้างแต่คุยน้อยลงแล้ว จุดที่ทำให้เรามั่นใจ อย่างที่บอก คือเราเคยเจอเพื่อนพี่โม่หลายคนมาก ไม่ว่าจะเป็นแก๊งเดียวกันหรือเพื่อนคนอื่นๆ เอาจริงๆ พี่หลายๆ คนในแก๊งก็เพิ่งรู้เรื่องนี้ หลายๆ คนก็ช็อกเพราะเขาก็ไม่รู้มาก่อน อีกอย่างเมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว เขาก็พาเราไปเจอครอบครัวเขาด้วยนะ เจอครบเลยคุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย พี่สาว มันเลยทำให้เรารู้สึกไม่มีอะไรอ่ะ ก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่เคยปิดอะไร และเราก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่มาเช็กมือถือแฟนด้วย เพราะเราก็ทำงานของเรา เราไม่ชอบให้ใครมาเช็กมือถือเราเหมือนกัน”

”กิริยาคนที่บ้านงเขา พ่อแม่เขาคุยกับเฟิร์นปกติเลย ขอถ่ายรูป หลานมาขอลายเซ็นด้วย ปกติเลยค่ะ”

“บทสรุป ณ ตอนนี้ใช่ไหมค่ะ จริงๆ อย่างที่บอก ณ ตอนนั้นพอวางหูจากพี่โม่ไป เราก็ประมวลกับตัวเองแล้วแหละ ก็รู้สึกว่ามันต้องถอยแล้วจริงๆ ถามว่าก่อนหน้านี้ที่จะรู้เรื่องของเขาเรามีความรู้สึกดีๆ กับเขาไหม เรามีความรู้สึกดีๆ กับเขามาก มันเป็นความรู้สึกที่เขาโอเค แต่ ณ ตอนนี้เราก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าในอนาคตจะเป็นยังไง เราก็ยังตอบตัวหนูเองไม่ได้”

“ไม่คือ คือ...คือมันจะเข้าใจยังไงได้อ่ะพี่ ก็คือออกมาแล้ว เขาจะอยู่ยังไง ก็เป็นเรื่องของเขา เขาก็มีง้อค่ะ ก็ต้องบอกว่าเขายังติดต่อมา เราก็ตอบเท่าที่ตอบได้ และคุยเท่าที่คุยได้ ณ ตอนนี้เราต้องเอาตัวเองออกมาก่อน เอาออกมาจากพื้นที่ตรงนั้นก่อน เราไม่ได้รู้สึกโกรธหรือเกลียดอะไรเขา แต่เรารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันแย่ เราก็รู้สึกว่าเราเคยเจอความรักที่มันไม่ถึงกับแย่แต่ไม่ได้เวิร์ก กับคนเก่าเราก็รู้สึกว่าก็เป็นเพื่อนกัน เลิกกันก็เป็นเพื่อนกันได้”

”สภาพจิตใจตอนนี้ดีค่ะ ดีขึ้นกว่าวันแรกมากเลย วันแรกก็ร้องไห้ ก็โทรมแหละอย่างที่เห็น แต่ว่าเวลาผ่านไปแล้วเราต้องบอกว่าตัวเองว่าโชคดีที่ได้กำลังใจเยอะมากๆ หลายๆ ครั้งที่เราไม่ได้เปิดอ่านแชทที่ทุกคนส่งเข้ามาให้กำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นแชทจากคนที่เรารู้จักหรือว่าคนไกลตัว แต่ถึงเราไม่ได้เปิด เรารับรู้ได้ ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ และก็จะพยายามทยอยตอบทุกคนให้ได้"

”ยังเชื่อเรื่องความรักนะคะ แต่เอาจริงๆ เราทุกคนเกิดมาตัวคนเดียว ตายคนเดียว เพราะฉะนั้นชีวิตเราจะถูกขีดไปเจอกับใครก็คือเจอ ไม่เจอก็คือไม่เจอ ไม่อยากจะคิดอะไรมาก เราอายุ 30 แล้ว"

“ใบเฟิร์น พัสกร” เคลียร์ดราม่า "เจโม่" ตอนรู้ช็อกจนมือสั่น! จากนี้ต่างคนต่างอยู่

“ใบเฟิร์น พัสกร” เคลียร์ดราม่า "เจโม่" ตอนรู้ช็อกจนมือสั่น! จากนี้ต่างคนต่างอยู่

“ใบเฟิร์น พัสกร” เคลียร์ดราม่า "เจโม่" ตอนรู้ช็อกจนมือสั่น! จากนี้ต่างคนต่างอยู่

“ใบเฟิร์น พัสกร” เคลียร์ดราม่า "เจโม่" ตอนรู้ช็อกจนมือสั่น! จากนี้ต่างคนต่างอยู่