posttoday

เจาะลึก THE BATMAN ฮีโร่ที่ “เป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุด”

24 กุมภาพันธ์ 2565

ร่างหนึ่งซุ่มซ่อนอยู่ในความมืด เป็นเงาที่แฝงเร้นอยู่ในเงา

เหล่าอันธพาลหัวโล้นหลายสิบรายรวมตัวกันอยู่บนชานชาลาโล่งของสถานีรถไฟใต้ดิน ศีรษะขาวโพลน ดวงตาจับจ้องไปยังเงาดำมืดของทางเดินที่ไร้แสงไฟ พวกมันต่างเฝ้ามองการมาถึงของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญที่เป็นดั่งปีศาจในเงามืด เสียงฝีเท้ากึกก้องดังใกล้เข้ามาพร้อมลมหายใจหน่วงหนัก เหล่าอันธพาลตัวสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่นเหมือนหนูในท่อระบายน้ำที่รถไฟกำลังจะพุ่งเข้าชน ในที่สุดร่างนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นภายใต้ผ้าคลุมสีดำและชุดต่อสู้สีดำด้าน เขาสวมหน้ากาก หนึ่งในกลุ่มโจรเอ่ยปากถามสั้นๆ “แกเป็นใครกันวะ” พลางก้าวมาข้างหน้าเพื่อเตรียมป้องกันตัวด้วยท่อเหล็กในมือ ร่างนั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ปลดอาวุธโจรรายนั้น ระดมต่อยมันเข้ากับพื้นปูนของชานชาลาด้วยความโหดเหี้ยมดังสัตว์ร้าย จากนั้นลุกขึ้นจ้องตาโจรรายนั้นพร้อมตอบคำถาม “ข้าคือการล้างแค้น”

บรรยากาศในฉากของ The Batman โดยผู้กำกับแมตต์ รีฟส์ชวนให้หวาดหวั่นไม่แพ้การเปิดตัวของตัวละครเอกในเรื่อง ด้วยความมืดมน หม่นหมอง เต็มไปด้วยความคั่งแค้นที่เก็บกดเอาไว้ภายใน การถ่ายทำส่วนใหญ่เกิดขึ้นกลางดึก ทว่าการถ่ายทำช่วงกลางวันก็ยังคล้ายปกคลุมด้วยความมืด สายฝนเทกระหน่ำในเมืองก็อตแธม สภาพแวดล้อมนี้เกิดขึ้นโดยเจตนาตามแนวทางการสร้างสรรค์ที่ผู้กำกับได้วางไว้ รีฟส์มีวิสัยทัศน์ที่เรียบง่ายตรงไปตรงมา เป็นคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับตัวตนที่แท้จริงของนักรบใต้เสื้อคลุมผู้นี้

เจาะลึก THE BATMAN ฮีโร่ที่ “เป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุด”

“Batman เริ่มจากการเป็นเรื่องราวแบบนัวร์ (noir) ถูกไหม” รีฟส์ตั้งคำถามนำ “คอมิกเป็นเรื่องราวแบบนัวร์และเขาก็เป็นนักสืบ เพราะฉะนั้นการย้อนกลับไปหาจุดเริ่มต้น การถอดความเป็นแฟนตาซีแบบซูเปอร์ฮีโร่ทิ้งไป และให้เขาเป็นมนุษย์ที่ปรารถนาจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่…สำหรับผม นี่แหละที่น่าตื่นเต้น”

นอกเหนือจากงานออกแบบ รีฟส์ได้วางแนวทางของหนังจากความต้องการที่จะหลีกหนีจากเรื่องราวเกี่ยวกับจุดกำเนิดและความเป็นมา “ผมเห็นหนังที่เล่าถึงจุดกำเนิดมาแล้วหลายเรื่อง และผมคิดว่า ‘อืม ผมไม่อยากเล่าเรื่องราวจุดกำเนิด ผมอยากเล่าถึงแบทแมนวัยหนุ่มเลย’ ผมอยากวางเขาไว้ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ตัวละครนี้ยังเหลือสิ่งที่ต้องปรับปรุง เขายังต้องผลักดันตัวเองให้เก่งกว่านี้ ผมอยากเล่าเรื่องของแบทแมนคนนี้และให้เขาได้ไขปริศนา เป็นเรื่องราวที่ไม่ได้เล่าถึงจุดกำเนิด แต่อ้างถึงจุดกำเนิดของเขาและสั่นสะเทือนเขาถึงตัวตนภายใน”

การถ่ายทอดฉากอันดำมืดตกเป็นหน้าที่ของผู้กำกับภาพ เกร็ก เฟรเซอร์ ซึ่งทำงานร่วมกับรีฟส์มานานแล้ว เขาช่วยผู้กำกับรายนี้ฉายภาพโลกที่เหมาะกับตัวละครเอกของเรื่อง

“แมตต์กับผมคุยกันตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าอยากให้โทนย้อนกลับไปเหมือนตอนเริ่มเรื่องของแบทแมนในหนังสือคอมิก” เฟรเซอร์เล่า “บรูซ เวย์น เป็นตัวละครที่แหลกสลายและแบทแมนก็เป็นผลจากความแหลกสลายนั้น เราใช้ Batman: Year One เป็นแหล่งอ้างอิงหลัก เราไม่ได้ศึกษาเจาะลึกแต่ดูแนวทางโดยรวม แล้วมันก็กลายมาเป็นจุดตั้งต้นให้หนังของเรา เพราะมันเล่าถึงเรื่องราวของแบทแมนในวัยหนุ่มที่ค่อนข้างจะดาร์คกว่าช่วงอื่นๆ”

เพื่อถ่ายทอดภาพชายในหน้ากาก รีฟส์ต้องการนักแสดงผู้สามารถถ่ายทอดสิ่งที่เขาเรียกว่า “เงาตามทฤษฎีของคาร์ล ยุง” (Jungian shadow-side) สำหรับตัวตนลับอีกภาคหนึ่งของแบทแมนนั้น เขาอยากได้บรูซ เวย์นที่ดูกลัดกลุ้มร้อนรน คล้ายๆ เคิร์ต โคเบนผสมกับฮาวเวิร์ด ฮิวส์ “เราเคยเห็นบรูซที่เป็นเพลย์บอย บรูซที่เป็นมหาเศรษฐีรวยล้นฟ้า แต่ผมอยากให้เขาเป็นคนเก็บตัวและออกจะร็อคแอนด์โรลล์หน่อย หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา บรูซถอยห่างจากการเป็นคนตระกูลเวย์น และคุณจะเห็นว่าเขาเหมือนกับร็อคสตาร์เลย”

โรเบิร์ต แพตทินสันมารับช่วงอธิบายต่อ “ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่อ่านบท มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างมากๆ บรูซยังคงต้องต่อสู้ดิ้นรน เขาไม่ใช่คนที่อยู่ด้วยแล้วจะสบายใจ แม้กระทั่งตอนที่เขาไม่ใช่แบทแมนก็เถอะ เขายังควบคุมบุคลิกของตัวเองไม่ได้ ยังไม่สามารถกำหนดเส้นแบ่งระหว่างเวลาที่เขาเป็นแบทแมนกับเวลาที่เขาเป็นบรูซ เขายังไม่ได้กำหนดให้ชัดเจนว่าแบทแมนคืออะไร ผมว่าการที่เขายังควบคุมตัวเองไม่ได้ตรงนี้มันน่าสนุกดี”

เจาะลึก THE BATMAN ฮีโร่ที่ “เป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุด”

“สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นในตัวโรเบิร์ต” รีฟส์กล่าว “ก็คือความจริงจังของเขา เรารู้ว่าเขาจะผลักดันตัวเองอย่างไร้ขีดจำกัด” รีฟส์พยายามที่จะนำตำนานของแบทแมนมาจัดวางโครงสร้างใหม่ และมองว่าแพตทินสันเป็นภาพที่ขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับตัวละครที่ได้กลายเป็นฮีโร่มากกว่าเป็นมนุษย์ไปแล้ว “ไม่ว่าอย่างไร” ผู้กำกับรายนี้กล่าว “ผมก็อยากได้แบทแมนที่มีความเป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุด รอยแผลเป็นคือความแข็งแกร่งของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาเหมาะจะเป็นคนที่ผลักดันตัวเองให้ถึงขีดสุด เพราะนั่นเป็นหนทางเดียวที่เขาจะค้นพบความหมายในชีวิตได้ แบทแมนในเรื่องนี้เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งมีพลังพิเศษคือการยอมอดทนแบกรับทุกสิ่งเอาไว้”

ผู้อำนวยการสร้าง ดีแลน คลาร์ก เห็นเช่นเดียวกัน หลังจากทำงานกับรีฟส์มาหลายปี คลาร์กเข้าใจดีถึงการเล่าเรื่องอย่างสะเทือนอารมณ์ตามสไตล์ของผู้กำกับรายนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวละครที่โด่งดังอย่างแบทแมนและการรับบทบาทโดยนักแสดงอย่างแพตทินสัน “เราไม่เคยดูหนังแบทแมนที่ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านมุมมองของแบทแมนมาก่อน” คลาร์กกล่าว “แนวทางของแมตต์น่าสนใจมากเพราะหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวการสืบสวน เราไม่เคยได้เห็นแบทแมนเป็นนักสืบ ในเรื่องนี้เราจะได้อยู่กับแบทแมนในทุกๆ ฉากและปะติดปะต่อเงื่อนงำต่างๆ ไปพร้อมกับเขา” 

รีฟส์เปรียบเทียบมุมมองลักษณะนี้กับหนังอย่าง Chinatown ซึ่งมุมมองของผู้ชมและตัวละครเอกจะดำเนินสอดคล้องกัน คลาร์กเสริมว่า “ตลอดทั้งเรื่องเขาต้องออกไปสืบสวนเหตุอาชญากรรมต่างๆ และเรื่องราวก็ชวนให้ตั้งคำถามไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับตัวตนของเขา ที่มาของเขา และมรดกที่เขาสร้างไว้ ผมคิดว่าแมตต์บรรลุผลสูงสุดในแง่การนำเสนอช่วงเวลาที่สะเทือนอารมณ์ พร้อมกันนั้นก็ได้มอบความบันเทิงสเกลใหญ่บนจอภาพยนตร์ด้วย การมาบรรจบกันระหว่างงานสร้างที่ยิ่งใหญ่กับความแนบชิดทางอารมณ์ช่วยให้งานของแมตต์แตกต่างออกมา”

เจาะลึก THE BATMAN ฮีโร่ที่ “เป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุด”

เจาะลึก THE BATMAN ฮีโร่ที่ “เป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุด”

แน่นอนว่าฮีโร่ที่ “เป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุด” ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว รีฟส์ไม่ยอมเผยข้อมูลมากเกินไป โดยอธิบายว่าแบทแมนของเขาต้องมาประลองกับวายร้ายโรคจิตอย่างริดเลอร์ผู้โด่งดัง The Batman ได้เหล่าดาราดังมากมายมารับบทเป็นตัวละครหลักในคอมิก โดยแต่ละคนก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือฮีโร่รายนี้ขณะที่เขาพยายามไขปริศนาสุดอันตรายของริดเลอร์ โซอี คราวิทซ์รับบทเป็นเซลินา ไคล์ ซึ่งยังไม่ได้เป็นแคทวูแมนแต่เป็นจอมโจรเจ้าเล่ห์ในร่างแมวป่าที่ชื่นชอบการช่วยเหลือคนหลงทางอย่างบรูซ 

“แมตต์เขียนบทที่น่าเหลือเชื่อและสร้างตัวละครที่น่าเหลือเชื่อ” คราวิทซ์เล่า “สิ่งที่น่าจะสำคัญที่สุดคือการพยายามสร้างมนุษย์จริงๆ ขึ้นมา ฉันอยากให้เธอเป็นคนที่มีอยู่จริงในสถานการณ์จริง ในเมืองจริง คนที่พยายามเอาชีวิตรอดและต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจริงๆ”

นอกจากนี้รีฟส์ยังได้ติดต่อให้นักแสดงมากประสบการณ์ เจฟฟรีย์ ไรท์ มารับบทเป็นเจมส์ กอร์ดอน เสาหลักของกรมตำรวจเมืองก็อตแธมผู้คอยต่อสู้กับความฉ้อฉล รีฟส์บรรยายว่ากอร์ดอนและแบทแมนเป็นคู่หูกันแบบเดียวกับวู้ดวอร์ดและเบิร์นสไตน์จากเรื่อง All the President’s Men เป็นชายสองคนที่ค้นหาความจริงท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการโกหกหลอกลวง 

“กอร์ดอนกับแบทแมนเป็นทีมเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องราวเวอร์ชันนี้” ไรท์กล่าว “ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากอร์ดอนเป็นคนดีโดยเนื้อแท้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เขาปรารถนาที่จะเป็นคนดี เขาทนไม่ไหวกับความทุจริตเลวทรามที่ยึดครองเมืองนี้และเขาก็พยายามที่จะทำตัวให้ถูกต้อง เขาต้องการสร้างความยุติธรรมบางอย่างแต่ยังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่อย่างน้อยเขาก็พยายาม” 

แน่นอนว่ามหากาพย์แบทแมนจะไม่มีทางสมบูรณ์หากขาดตัวละครผู้โด่งดังอย่างอัลเฟรด พ่อบ้านผู้ภักดีของบรูซและต่อมาได้กลายเป็นเหมือนพ่อของเขา แอนดี เซอร์คิส ซึ่งประสบความสำเร็จในการร่วมงานกับรีฟส์มาแล้ว ได้ก้าวเข้ามารับบทนี้ด้วยความทุ่มเทไม่แพ้ตัวละครที่เขารับบท

“อัลเฟรดรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นผู้รอดชีวิต” เซอร์คิสกล่าว “เขารู้สึกว่าตัวเองควรอยู่ปกป้องพ่อแม่ของบรูซตอนที่ทั้งสองถูกสังหาร และเขารู้สึกว่าต้องเป็นคนรับผิดชอบ มีความตึงเครียดที่ไม่ได้เอ่ยออกมาระหว่างอัลเฟรดกับบรูซเพราะอัลเฟรดรู้สึกว่าเขาเป็นคนผิด เขารู้จักบรูซมาตั้งแต่เกิดแล้วก็ต้องกลายมาเป็นเหมือนพ่อเลี้ยงให้เขาโดยไม่ได้ตั้งตัว แต่อัลเฟรดไม่ใช่คนแบบนั้น เขามีความเป็นทหารและไม่เก่งเรื่องการสื่อสารทางอารมณ์ มันจึงเป็นความสัมพันธ์อีกแบบที่แฝงความจริงมากมายเอาไว้” 

ฮีโร่ทุกคนล้วนเกิดมาเพื่อหยุดยั้งวายร้ายและความเสื่อมทรามในก็อตแธมก็พร้อมรับบทบาทนี้อยู่แล้ว ต้นตอหนึ่งของความป่วยไข้ในเมืองนี้ก็คืออ็อซ หรือที่รู้จักกันในนามแฝงว่า มนุษย์เพนกวิน นักแสดงอย่างคอลิน ฟาร์เรลล์ไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับตัวละครเพนกวินแต่อย่างใดเลย (ทั้งร่างม่อต้อ ตัวอ้วนท้วน หรือเหนียงใต้คางแบบตัวการ์ตูน) ความท้าทายนี้เองที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้นักแสดงรายนี้

“ผมเห็นผลงานที่ศิลปินช่างแต่งหน้า ไมค์ มาริโน ได้สร้างสรรค์ขึ้นและหน้าตาของเพนกวินที่เขาวางแผนเอาไว้ แล้วผมก็อึ้งไปเลย” ฟาร์เรลล์กล่าว “ผมเกิดจินตนาการบรรเจิดขึ้นมาเดี๋ยวนั้นเลย เป็นครั้งแรกที่ผมได้แต่งหน้าเต็มรูปแบบและได้รับโอกาสให้รับบทบาทเป็นตัวละครแบบนี้ ผมต้องขอบคุณไมค์และทีมงาน รวมถึงขอบคุณแมตต์ที่มุ่งมั่นผลักดันตัวละครนี้ให้เต็มที่อย่างที่เราได้ทำมา”

จอห์น เทอร์ทูร์โร รับบทเป็น คาร์มิน ฟัลโคนี เจ้าพ่อแก๊งอาชญากรใต้ดินประเภทเดียวกันกับแกมบิโน โคลอมโบ หรือแม้กระทั่งคอร์เลโอเน ฟัลโคนีอยู่ตรงจุดตัดของอำนาจในเมืองก็อตแธม เป็นจุดคุมเชิงที่ทำให้เขาตกเป็นเป้าการจู่โจมของแบทแมนและแคทวูแมน ด้วยความที่เป็นแฟนของ Dark Knight มานาน เทอร์ทูร์โรจึงสนใจเป็นอย่างยิ่งที่รีฟส์วางแนวทางของตัวละครตัวนี้ให้เป็นแบบนัวร์ขนานแท้ เขากล่าวย้ำมุมมองของผู้กำกับว่า “อย่าลืมว่านี่เป็นคอมิกสืบสวนสอบสวนนะ สมัยที่ผมซื้อมาอ่านด้วยราคา 5 เซนต์หรืออะไรเทือกนั้น เขาก็เรียกคอมิกพวกนี้ว่าคอมิกสืบสวน ผมอ่านคอมิกของแฟรงค์ มิลเลอร์ อ่าน The Long Halloween งานพวกนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก The Godfather อย่างเห็นได้ชัดเลย และผมก็รู้จัก Godfather อย่างละเอียดถี่ถ้วนเลย อิทธิพลพวกนี้มารวมเข้าด้วยกันในระดับที่มากน้อยต่างกันไป”

เจาะลึก THE BATMAN ฮีโร่ที่ “เป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุด”

ในที่สุดเราก็มาถึงตัวละครหลักฝั่งตรงข้ามกับฮีโร่ของเรา นักฆ่าโรคจิตซึ่งรู้จักกันเพียงในชื่อเดอะริดเลอร์ คนคลั่งใส่หน้ากากรายนี้ข่มขวัญนักสืบที่เก่งที่สุดในโลกด้วยการส่งแบทแมนออกไปตามล่าหาเงื่อนงำที่กระจายอยู่ทั่วแวดวงใต้ดินของก็อตแธม พอล ดาโน สุดยอดนักแสดงมากฝีมือ มารับบทเป็นวายร้ายผู้โหดเหี้ยมรายนี้ได้อย่างน่าสะพรึงกลัว

“สำหรับผมแล้วเส้นแบ่งที่เลือนรางระหว่างแบทแมนกับเหล่าวายร้ายนั้นทรงพลังเสมอ” ดาโนกล่าว “ผมคิดว่าแมตต์อาศัยประโยชน์จากแง่มุมนี้และกล้าที่จะขุดค้นให้ลึกลงไป ฮีโร่กับวายร้ายอาจฟังดูเหมือนการแยกขั้วเป็นสีดำกับสีขาว แต่ที่จริงแล้วก็มีส่วนที่เป็นสีเทาอยู่มากเหมือนกัน แบทแมนและวายร้ายต่างก็ถือกำเนิดขึ้นมาจากโลกใบนี้ ผมคิดว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวละครเหล่านี้ทรงพลังและสะท้อนถึงจิตสำนึกร่วมของคนเรามาอย่างยาวนาน”

ประเด็นนี้เองที่ผลักดันวิสัยทัศน์ของรีฟส์ให้ไกลยิ่งกว่าเดิมจากการสร้างสรรค์โลกแบบนัวร์ซึ่งความมืดมิดเข้าปกคลุมทุกสิ่ง ตัวละครแบทแมนอาจไม่ได้เป็นซูเปอร์ฮีโร่มากเท่ากับที่เป็นหมาป่าตัวหนึ่งซึ่งได้พบหมาป่าตัวอื่นๆ ในโลกภายนอก เป็นเงาที่แฝงเร้นอยู่ในเงา เช่นเดียวกับเจมส์ กอร์ดอน เขาไม่ได้เป็น “คนดี” โดยเนื้อแท้แต่เป็นคนที่พยายามรักษาความดีไว้ท่ามกลางกระแสคลื่นแห่งความเสื่อมทราม เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและรีฟส์สั่งเลิกกองคืนนี้ ดาโนก็ยืนยันแนวคิดนี้ด้วยประโยคที่เรียบง่ายทว่าเป็นแก่นสาร “วายร้ายใส่หน้ากาก แต่แบทแมนก็ใส่หน้ากากเหมือนกัน”

เจาะลึก THE BATMAN ฮีโร่ที่ “เป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุด”