posttoday

หลุยส์ เตชะอุบล นักธุรกิจแกร่งระดับดีเอ็นเอ

19 กันยายน 2560

หลุยส์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรทัน โฮลดิ้ง หรือ TRITN

ขึ้นแท่นเป็นแม่ทัพหญิงเต็มตัวในปลายปีที่ผ่านมา หลุยส์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรทัน โฮลดิ้ง หรือ TRITN ผลงานล่าสุดนำทัพพาบริษัทในเครือสเตรกา (STREGA) ชนะประมูลโปรเจกต์ใหญ่รับงานก่อสร้างท่อขนส่งน้ำมันยาวที่สุดในประเทศไทย มูลค่า 3,300 ล้านบาท ขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ และล่าสุด สเตรกาพร้อมจับมือพันธมิตรด้านพลังงานระดับโลกร่วมเดินหน้าไม่หยุดยั้งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ นำทีมโดยผู้บริหารซีอีโอหญิงคนใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายในปีนี้ สเตรกา และไทรทันจะเป็นกลุ่มธุรกิจมีกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในแวดวงการลงทุนและเรื่องหุ้น หลุยส์ เตชะอุบล คือหนึ่งชื่อในทำเนียบนักธุรกิจหญิงแนวหน้าของเมืองไทย โดยเฉพาะในเวลานี้การนำไทรทัน โฮลดิ้ง ลุยเดี่ยวสู่ความสำเร็จในการเป็น Holding Company กำลังเติบโตและสร้างกำไรให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากสองบริษัทยักษ์ใหญ่อยู่ในมือ ผู้บริหารหญิงร่างบอบบาง บุคลิกนุ่มนวล มีอีกหนึ่งเครือข่ายทางธุรกิจของไทรทัน คือ สแพลช มีเดีย ทำธุรกิจในการดูแลด้านธุรกิจสื่อบิลบอร์ดโฆษณา ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนป้ายโฆษณาช่วงสิ้นปี 2560 บริษัทตั้งเป้ามีป้ายโฆษณาอยู่ทั้งหมด 90 ป้ายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

หลุยส์ เตชะอุบล นักธุรกิจแกร่งระดับดีเอ็นเอ

นักธุรกิจรุ่นสองเตชะอุบล

นักธุรกิจหญิงมาดแกร่ง หลุยส์ ทายาทรุ่นที่สอง และเป็นลูกสาวคนเดียวของ สดาวุธ เตชะอุบล ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ แม้เป็นลูกผู้หญิงเพียงคนเดียวของบ้านในจำนวนพี่น้อง 4 คน หากวันนี้ด้วยภาระรับผิดชอบในบริษัทใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ชื่อของ “มาดามหลุยส์” คือผู้บริหารหญิงน่าจับตามองที่สุดอีกคนหนึ่งของตระกูลเตชะอุบล

คันทรี่ กรุ๊ป มีฐานธุรกิจสำคัญอยู่ในประเทศออสเตรเลีย บันไดขั้นแรก สดาวุธ วางเส้นทางลูกทุกคนต้องศึกษาจบระดับปริญญาตรีที่นั่น หลุยส์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านไฟแนนซ์ มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ใช้ชีวิตเรียนหนังสือ บันไดขั้นที่สองเมื่อจบแล้ว ลูกทุกคนต้องกลับมาเรียนต่อระดับปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะกลับมาช่วยงานครอบครัวอย่างจริงจัง

“ดิฉันไปอยู่ที่ซิดนีย์ตั้งแต่ 3 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ไปทำธุรกิจก็จะพาลูกเข้าบริษัทไปทำงานด้วยตลอด ก็จะเห็นว่าคุณแม่ทำอะไร คุณพ่อทำอะไรบ้าง จนเราคุ้นเคยและซึมซับทุกอย่างเข้าไปโดยไม่รู้ตัว อายุ 8-10 ขวบ พ่อสอนเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นแล้วค่ะ ทำให้ชอบการลงทุนหุ้น (บอกพลางยิ้ม) คุณพ่อปลูกฝังให้เรียนรู้เรื่องการลงทุนตั้งแต่เด็ก แล้วเป็นเรื่องตลกของพวกเรา 4 พี่น้องด้วยค่ะ ถ้าลูกเรียนได้เกรดเอ พ่อให้ตัวละ 1,000 เหรียญ พี่ชายน้องชายเรียนเก่งกว่าดิฉันเยอะเลยค่ะ ได้เอสะสมหลายตัวพวกเขาก็เอาไปฝากธนาคาร ส่วนดิฉันได้เอน้อยกว่าใคร ก็ต้องเอาไปลงทุนในหุ้นเพราะอยากมีเงินเยอะๆ เหมือนพี่น้องบ้าง (หัวเราะ)

คุณแม่เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาเรื่องการลงทุนค่ะ ถ้าใครถามตอนเด็กๆ มีความฝันอยากเป็นอะไร แล้วเติบโตมาอยากเป็นอะไร คำตอบคือ Investor หลังจากเรียนจบแล้วก็เริ่มทำงานเป็นโบรกเกอร์ให้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงานจนสามารถช่วยดูแลธุรกิจครอบครัวเป็นครั้งแรก ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน-Chief Investment Officer (CIO) บริษัทหลักทรัพย์แอ๊ดคินซันฯ (ปัจจุบันคือบริษัทหลักทรัพย์คันทรี่ กรุ๊ป) ทำงานตรงนี้เวลา 4-5 ปี เลือกก้าวสู่เส้นทางของนักลงทุนอิสระอย่างเต็มตัวค่ะ”

ธุรกิจหลักของตระกูลคืออสังหาริมทรัพย์ หลุยส์ บอกว่าคุณพ่อยกงานหมวดนี้ให้ลูกชายดูแล ส่วนงานลงทุนมอบหน้าที่ให้ลูกสาว พ่อให้เหตุผล เป็นผู้หญิงทำด้านลงทุนเหนื่อยน้อยกว่า แต่กลายเป็นว่าก็ไม่พ้นเจองานหินๆ เหนื่อยๆ

“คุณพ่อคงมองเห็นศักยภาพบางอย่างในตัวเราด้วยค่ะ เราคงทำได้ดี ดิฉันจำได้ดีเลยค่ะกับการลงทุนก้อนใหญ่ครั้งแรกหลังเรียนจบปริญญาตรี คุณพ่อให้เงินมา 3 ล้านบาทแรกสำหรับการเริ่มต้นชีวิตธุรกิจ ใช้ชีวิตเต็มที่ค่ะ 1 ล้านบาท ดิฉันใช้ไปกับช็อปปิ้งแบรนด์เนมเสื้อผ้ากระเป๋า (เล่าพลางหัวเราะ) อีก 2 ล้านบาทคือการลงทุนทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ศึกษาข้อมูลธุรกิจดูตัวเลขรายได้อย่างละเอียด

การลงทุนเป็นเรื่องยากมาก ถ้าเงินเล็กเราก็ต้องหาอะไรที่ทำให้เงินโตเร็ว ถ้าเงินใหญ่ก็ยิ่งต้องเหนื่อย เพราะการลงทุนในตลาดมีทั้งข้อมูลจริงและไม่จริง เราต้องมีไหวพริบในเรื่องกรองข่าวสาร การลงทุนมีทั้งได้และเสีย แต่ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องสู้ต่อไปนะคะ

การลดความเสี่ยงให้มากที่สุด อันดับแรกต้องศึกษาให้ละเอียด คือตัวเลขดิฉันจะดู Financial Statement อย่างน้อยเกิน 5 ปีขึ้นไป เป็นพื้นฐานนักลงทุนอยู่แล้วนะคะ และตั้งแต่เด็กๆ ก็ชอบเอาตัวเลขมานั่งกดดูเล่น ชอบอ่าน Annual Report ของบริษัทอื่นๆ ดูย้อนกลับไปหลายๆ ปี อันดับสองคือ ผู้นำหรือผู้บริหาร ถ้าบริษัทใดอยู่ในอินดัสเทรียลที่มีอนาคต ก็จะเข้าไปคุยกับผู้บริหารทันทีค่ะ สิ่งที่สำคัญก่อนตัดสินใจลงทุนกับบริษัทไหน จะต้องรู้จักเขาเพื่อที่จะเชื่อใจผู้บริหารและทีมงานทั้งหมด และรู้ว่าอนาคตบริษัทจะเดินไปในทิศทางไหน ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็จะต้องมีการกำกับดูแลกิจการที่ดีโดยไม่มีการทุจริต

สุดท้ายคือจังหวะเวลา เวลาไหนควรเข้าไปลงทุน ซึ่งสามองค์ประกอบนี้จะต้องไปด้วยกันเสมอค่ะ ดิฉันมองว่าความเสี่ยงจริงๆ ในการลงทุนคือการที่ผู้ถือหุ้นเข้าไปลงทุนโดยที่ไม่สามารถถือมันเอาไว้ได้ ดังนั้นถ้าเราเลือกลงทุนกับบริษัทไหนแล้วเราต้องพอใจว่าเราจะสามารถถือมันไปได้อีกนาน แค่นี้ความเสี่ยงก็จะลดลงไปอีก

ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ก้าวออกมาจากอาณาจักรของพ่อรุ่นบุกเบิก เพื่อเป็นนักลงทุนอิสระเต็มตัว นักธุรกิจหญิงมาดนุ่ม หลุยส์ บอกเป็นช่วงเวลาที่ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวและเจออะไรมามาก ไม่ใช่นักลงทุนเก่งกาจสามารถที่ใช่ว่าไม่เคยผิด แต่ก้าวข้ามความยากหรืออุปสรรคในการทำงานไปได้ ด้วยความเชื่อว่าการเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมีสติจะทำให้ผ่านไปได้เสมอ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีความอดทน

จากนักลงทุนสู่นักบริหาร

จากเส้นทางธุรกิจ "เตชะอุบลแฟมิลี่" ผู้เป็นพ่อวางหมากให้ลูกทั้ง 4 คน เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการสานต่อกิจการของครอบครัวไว้ชัดเจน ในวงการธุรกิจลูกทุกๆ คนคือนักธุรกิจที่วงการยอมรับ

ก้าวต่อมาในวันนี้ การตัดสินใจเดินออกมาจากอาณาจักรของพ่อ เพื่อพิสูจน์ฝีมือโดยมีความท้าทาย หลุยส์ เลือกเปลี่ยนบทบาทจากนักลงทุนสู่การเป็นนักบริหารนำทัพ ไทรทัน โฮลดิ้ง ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนภายใต้วิสัยทัศน์ “ลงทุนเพื่อคนรุ่นใหม่” มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนชั้นเลิศระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นผ่านกลุ่มธุรกิจหลากหลาย ทั้งบริษัทมหาชนและบริษัทเอกชน

ปัจจุบันมีการลงทุนใน 4 ภาคธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจสื่อ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจพลังงานและเหมืองแร่ ด้วยโครงสร้างพิเศษในฐานะบริษัทโฮลดิ้ง 

ไทรทันจัดอยู่ในบริษัทแถวหน้าที่มีความคล่องตัวสูง มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนและผลกำไร และได้รับประโยชน์จากการที่สามารถจดทะเบียนและสร้างผลพลอยได้จากโครงการลงทุน 

“ไทรทันเป็นบริษัท Investment Holding Company พร้อมลงทุนในบริษัทอื่นๆ ที่คิดว่าได้ผลตอบแทนดี เครือข่ายทางธุรกิจเริ่มศึกษาตลาดมากขึ้นค่ะ และไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตลาดหุ้น ซึ่งมีทั้งตลาดทอง ตลาดอนุพันธ์ ตลาดคอมมูนิตี้ไปจนถึงตลาดต่างประเทศ การเป็นนักลงทุนต้องมองออกว่าควรจะลงทุนในบริษัทแบบใด ลงทุนในบริษัทมีรายได้อย่างไร

จากเป็นนักลงทุนสไตล์กล้าได้กล้าเสีย วันนี้พอเปลี่ยนรับหน้าที่เป็นผู้บริหาร แนวความคิดก็เปลี่ยนไปด้วยค่ะ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีดิฉันเป็นซีอีโอผู้บริหาร การบริหารเงินคนอื่นด้วยไม่ใช่เงินเราเพียงคนเดียวเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป วันนี้ต้องไม่มีคำว่าเสีย และไม่กล้าเสี่ยงอีกเด็ดขาด

คุณพ่อกับคุณแม่ก็เป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ โดยที่ดิฉันสัมผัสเห็นได้ด้วยตาของตัวเองจริงๆ และที่ผ่านมาเราเองก็โชคดีที่มีเพื่อนร่วมงานดีมากๆ หลายคน ดิฉันโชคดีที่ได้ซีอีโอบริษัทลูก รับภาระงานหนักไปช่วยเราได้เยอะมาก หลายปัจจัยกำไรค่ะ ซึ่งความเป็นนักลงทุน ดิฉันก็เข้ามาบริหารเงินลงทุนให้ได้ก้อนใหญ่ขึ้น

โชคดีเกิดมาเป็นลูกคุณพ่อ ช่วยคอนเนกชั่นธุรกิจได้ดีมาก (บอกพลางยิ้ม) อีกแรงบันดาลใจ คือ คุณแม่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ออสเตรเลีย ท่านขยันมากจนรู้สึกว่าตัวเองต้องพยายามให้มากขึ้นอีก อย่างน้อยก็ต้องได้ครึ่งหนึ่งของแม่ ดิฉันเพิ่งพาลูกทั้ง 3 คนไปเยี่ยมคุณยาย ได้เห็นแม่เลี้ยงหลานๆ แม่พูดสอนหลานอายุ 8-6-4 ขวบ วัยกำลังเติบโต ทำให้เรารู้ว่าเราเลี้ยงลูกแต่ไม่ได้สอนเขาเลย

แม่สอนหลานทั้งวันพูดไม่หยุด แม่เหนื่อยมากนะคะบนโต๊ะกินข้าว คุณยายก็สอนหลานถามว่า โตขึ้นมาจะทำงานอะไร จะหาเงินอย่างไร แล้วใครจะให้งานคุณ แล้วกว่าคุณจะได้งานนี้คุณต้องเรียนหนังสืออย่างไร แล้วแม่ก็หันมาบอกดิฉันว่าสอนเด็กๆ นี่ กำลังสอนเธอด้วยนะว่าให้เธอไปสอนลูกเธออย่างไร ทำให้เราคิดว่า อ๋อ...นี่คือสิ่งที่แม่สอนเรา แต่เราไม่เคยทำแบบนี้กับลูกเลย แม่เสียสละให้พวกเราเยอะมาก พอมีลูกจึงได้รู้ค่ะ”

นักธุรกิจหญิงหน้าตาอ่อนเยาว์ บอกพร้อมรอยยิ้มบางๆ อนาคตเป้าหมายแข็งแกร่ง กำลังก้าวไปพร้อมพื้นฐานแข็งแกร่งของตระกูลเตชะอุบล อีกหนึ่งตระกูลนักธุรกิจที่ก้าวไปไม่หยุดยั้ง