ผู้หญิงอยากรู้เรื่องความงาม วารี หิปปายน
ชีวิตของสาวออฟฟิศธรรมดาๆ คนหนึ่งที่รู้ใจของตัวเอง ก่อนจะผันตัวมาเป็น บล็อกเกอร์ความงามคนดัง
ปิเก้เล่าว่า เธอก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ ที่รักความสวยความงาม ทำงานออฟฟิศ 7-8 ปี เรียกตัวเองว่าเป็นสายเออี ประเภทอีเวนต์ ที่บริษัทซอฟต์แวร์เอกชนแห่งหนึ่ง ท่องยุทธจักรเออีอยู่นาน ก่อนจะรู้จักพร้อมๆ กับรู้ใจตัวเอง เมื่อได้เข้าไปเขียนคอนเทนต์ในจีบันบ้าง พันทิปบ้าง
“เริ่มจากโพสต์เล่นเล็กๆ น้อยๆ ลองโพสต์ดูสนุกๆ แล้วมันก็สนุกมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่งานหลักเริ่มเบื่อ แล้วก็เบื่อมากขึ้นเรื่อยๆ” ปิเก้เล่า
งานหลักของปิเก้ต้องเข้าทำงานตั้งแต่ 09.00-18.00 น. ช่วงเวลางานยาวเหยียด เมื่ออายุจะเข้าหลัก 30 จึงพูดคุยกับตัวเองอย่างจริงๆ จังๆ ว่า ฉันจะทำแบบนี้ไปจนอายุเท่าไหร่ คิดทำในสิ่งที่ชอบคือความสวยความงาม แต่ก็ต้องตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกัน เพราะถ้าออกจากงานหลักจริงๆ ครอบครัวอาจมีปัญหาได้
“มีแรงเสียดทานแน่ ไม่เฉพาะครอบครัว แต่คนรอบตัวทุกคน พูดแบบเดียวกันหมดว่า มันจำเป็นถึงขนาดต้องออกจากงานหลักเลยหรือ ทำเป็นงานอดิเรกนอกเวลางานไม่ได้หรือ”
ทุกคนให้ความเห็นแบบเดียวกันหมดว่า เรื่องของความสวยความงามแบบนี้ไม่น่าจะทำเป็นอาชีพได้ หรือทำเป็นอาชีพได้ก็ไม่น่าจะยั่งยืน ปิเก้เป๋เหมือนกัน ยอมรับกับตัวเองว่า ชักเริ่มไม่ค่อยมั่นใจนัก ทั้งๆ ที่ชอบมากและมีความสุขอย่างมากๆ ที่จะทำนี่แหละ หลายคนเชียร์ว่าเอาสิ แต่ให้ทำควบคู่กับงานหลัก
“ไขว้เขวไปหน่อยหนึ่ง ทุกคนพูดเรื่องความมั่นคง เชื่อว่าคนทำงานประจำแล้วอยากออกไปทำงานส่วนตัวต้องเจอกับคำถามเหล่านี้ คำแนะนำก็คือ เราต้องฟังตัวเราเอง”
ปิเก้เล่าว่า เธอไม่เห็นด้วยที่จะทำควบคู่กันได้ เนื่องจากงานหลักเป็นงานเต็มเวลา และเธอก็ไม่อยากใช้เวลายาวเหยียดตลอดวันอย่างนั้นเพื่อทำงานที่ไม่ต้องการจะทำ แต่ถ้าเป็นงานบล็อกเกอร์ แค่คิดว่ากำลังจะเริ่มต้นทำงานก็มีความสุขแล้ว อยากตื่นตอนเช้าแล้วพบกับสิ่งสวยงาม พลังงานผิดกันทันที
“เราอยากทำสิ่งที่เราชอบ มันผิดด้วยหรือ ถ้าผิดก็ขอลองทำผิดสักครั้งในชีวิต” ปิเก้เล่า
งานของบล็อกเกอร์ต้องทำอะไรบ้าง ปิเก้จะอัพเดทและคอมเมนต์เครื่องสำอางใหม่ๆ ที่น่าสนใจ งานลักษณะนี้จะทำทุกวัน ถ้ามีอีเวนต์บิวตี้สนุกๆ ก็อัพเดทลงไปด้วย ส่วนการอัพเดทเครื่องสำอางที่น่าสน จะอัพเดทประมาณ 2 วันต่อครั้ง ถือว่าเป็นงานหลักเลยก็ว่าได้ เพราะสมาชิกเพจสนใจมาก ไม่สนใจได้ไง ก็ดีไม่ใช่หรือที่มีคนช่วยคอมเมนต์ให้ว่า ใช้แล้วดีไม่ดี ไม่ได้อย่างไร
“สาวๆ ชอบกันมาก ลองคิดดูว่า ถ้ามีคนทดลองใช้เครื่องสำอางที่เรากำลังจะซื้ออยู่พอดี แล้วบอกเราว่ามันดีจริงไหมอะไรไหม เราก็ชอบนะ เพราะฉะนั้นก็เป็นอะไรที่เขาสามารถใช้เราได้ในจุดนี้ ยังมีฮาวทูเอฟเวอรีเดย์ที่เป็นวาไรตี้ทั้งสายเกาและสายฝอ”
ปิเก้อธิบายศัพท์แสงในวงการ สายเกาหมายถึงสายเกาหลี แบบว่าแบ๊วๆ หน่อย น่ารักสดใส ผิวขาวอมชมพู โทนสีเครื่องสำอางไปทางเฉดเดียวกัน ส่วนสายฝอ หมายถึงสายฝ. ย่อมาจากสายฝรั่งที่นิยมแต่งหน้าแบบเข้มดุ เบ้าตาทาระบายไม่ยั้ง ปากสีดำหรือปากสีม่วงหรือแดงผสมเลือดหมู คิ้วดุตาดุ เข้มขาดบาดตา
เฟซบุ๊ก เว็บไซต์ ไอจี และยูทูบ ทุกอันใช้ชื่อเดียวกัน piqueenvy ซึ่งปัจจุบันมีแฟนติดตามกว่า 7 หมื่นคนภายใน 1 ปีครึ่ง ถือว่าน่าพอใจ ก็คงต้องบอกเลยว่า ชีวิตเมื่อออกจากงานประจำแล้วนั้นสนุกมาก มีความสุขมาก ลาเวนเดอร์ตลอด รู้อย่างนี้ลาออกมาตั้งนาน
อย่างไรก็ตาม มีความชอบแต่ก็มีความกดดัน การทำธุรกิจในช่วงแรก อดีตสาวเออีคนนี้ต้องปรับตัวมากเหมือนกัน มีอะไรบ้างนั้น คนอยากออกงานประจำอาจอยากรู้ ปิเก้ตอบว่า ต้องมีวินัยสูงมาก ต้องดูแลตัวเอง ต้องดูแลเพจซึ่งเป็นงานหนัก ต้องเรียนรู้การทำธุรกิจ และเรียนรู้ในทุกเรื่อง
“โดยเฉพาะเรื่องการถ่ายรูป ซึ่งสำคัญมากในการทำเพจทำบล็อกให้น่าสนใจ เรายังมีไลฟ์สดเดือนละ 1 ครั้งด้วย นั่นหมายถึงปิเก้ต้องไปเรียนรู้เรื่องการทำคลิปด้วย”
ปิเก้บอกว่า สิ่งที่เธอทำมีผลลัพธ์มาจากความคิด เรื่องของความสวยงามสำคัญอยู่ที่การนำเสนอให้ดูดีมีศิลปะ การวางแผนและขั้นตอนการนำเสนอ เครื่องสำอาง 1 ชิ้นคือโจทย์ที่ต้องตีให้แตก มันคืออะไร คือความเป็นผู้หญิงหรือ คือความดาร์ก คือความละมุนสวยๆ คลิปและภาพที่ออกมา พยายามไม่ให้ดูพยายามมากไป แต่สะท้อนให้ตรงที่สุด
แล้วตัวปิเก้เองล่ะเป็นสายไหน เจ้าตัวตอบว่า เป็นได้หลายแนว ทั้งสายแบ๊วแบบเกาหลี และสายฝอ สวยเข้มๆ ดุๆ แบบฝรั่ง สนุกกับการได้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตัวตนที่แท้จริงคือความอ่อนหวาน แต่ไม่ใช่หวานที่หวานจนเลี่ยน ขณะเดียวกันก็ดาร์กดิบๆ หากไม่ดิบและไม่ดาร์กจนเข้าไม่ถึง
“ซิกเนเจอร์ของปิเก้ ไม่ใช่แค่เมกอัพ แต่เป็นไลฟ์สไตล์ เราคือลุคโดยองค์รวม ทาปากสีน้ำตาลแดงให้สีเข้มมากกว่านี้ได้ แต่งยังไงให้สวยขึ้น แต่งตัวแต่งหน้ายังไงถึงจะได้เจอกับตัวตนที่ดีที่สุดของเรา เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า นั่นก็แสดงออกซึ่งตัวตนของเราด้วยเช่นกัน”
จะแต่งหน้าให้ได้ดีต้องรู้จักหน้าตาของตัวเองเสียก่อน หมายความว่า ค้นหาตัวเองเจอเมื่อไหร่ จะแต่งหน้าสวยขึ้น อันนี้รับรองผลโดยคนสวยจำนวนมากที่เป็นแฟนเพจของ piqueenvy สำหรับบล็อกเกอร์ความงามในสนาม ส่วนตัวชอบโมเม ที่แต่งหน้าเน้นใช้งานในชีวิตจริง อีกคนคือบล็อกเกอร์สายเผ็ด “แพรีไพน์” ที่เน้นการแต่งหน้าแบบแฟชั่น
“เป็น 2 สายที่แตกต่างกันมาก แต่ก็เป็นอะไรที่ปิเก้ชอบ เพราะเชื่อว่าคนเรามี 2 คาแรกเตอร์ในตัวเสมอ สายฝอที่เวอร์มากๆ ดูแล้วต้องร้องว่าสีแบบนี้ก็ได้หรือ กับสายเพลย์เซฟในชีวิตจริงที่การแต่งหน้าแบบลิปสีนู้ดๆ โทนหน้าเป็นสีเอิร์ทๆ ก็ทิ้งไม่ได้”
ส่งท้ายด้วยคำแนะนำเรื่องการแต่งตัวแต่งหน้าจากบล็อกเกอร์คนเก่ง ปิเก้แบ่งปันว่า ผู้หญิงทุกคนมีพื้นฐานเรื่องการแต่งหน้าและแต่งตัวในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ส่วนจะแต่งอย่างไรก็ขอให้ดูที่ “เวอร์ชั่น” ว่า เราทำงานอะไร เราจะไปเที่ยวที่ไหน วันนี้เราจะทำอะไร กาลเทศะสำคัญที่สุด
เพราะความงามของผู้หญิงเป็นเรื่องของความรู้ ใครอยากสวยจึงต้องฝึกตัวเอง ฝึกเรียนรู้ ซึ่งไม่ยากเลยถ้าสนุกกับมัน ขอให้มองเรื่องความสวยความงามเป็นเรื่องอยากรู้อยากลอง แต่งหน้าแต่งตัวยังไงไม่มีผิดกติกา ขอให้สนุกเป็นใช้ได้