posttoday

อ่วมอีก!!! แม่ครัวทำใจ ก๊าซหุงต้มปรับราคา 3 ครั้ง เริ่ม 1 เม.ย. ขึ้นถังละ 15 บาท

18 มีนาคม 2565

‘สุพัฒนพงษ์’ ไฟเขียวขยับราคาก๊าซแอลพีจี หวังลดภาระกองทุนน้ำมันฯ พร้อมอุ้มบัตรคนจนลดค่าก๊าซ 3 เดือน บีบคอผู้ค้าน้ำมันกดค่าการตลาดดีเซลไม่เกิน 1.40 บาท

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานเปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นเดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม(ก.ก.) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ทำให้ราคาขายปลีก จะปรับเป็น 333 บาทต่อถัง 15 ก.ก.

ทั้งนี้เนื่องจากภาวะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019หรือโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ประกอบกับสถานการณ์สงครามยูเครนและรัสเซีย ส่งผลกระทบให้ราคาน้ำมันและแอลพีจี ในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ที่กระทรวงพลังงานได้ดูแลประชาชน โดยการตรึงราคาแอลพีจีไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม โดยตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้จ่ายเงินชดเชย รวมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 22,614 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซแอลพีจีติดลบสูงถึง 28,093 ล้านบาท ซึ่งหากปัจจุบันไม่มีการอุดหนุน ราคาจะอยู่ที่ 463 บาทต่อถัง 15 ก.ก. ดังนั้นเพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันฯจึงจำเป็นต้องทยอยปรับราคา

อย่างไรก็ตาม ราคาขายปลีกแอลพีจีของประเทศไทยยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนหลายประเทศแม้ว่าจะมีการปรับราคาขึ้น และเพื่อมิให้ส่งผลต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนมากเกินไปที่ประชุม กบง. ได้เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซ โครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซแอลพีจี แก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) จัดทำคำขอรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซ LPG โดยการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 55 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน

ขณะเดียวกันให้ ธพ. ขอความร่วมมือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ แอลพีจีแก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ ปตท. ดำเนินการอยู่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565

นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการให้แยกชนิดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วพรีเมียม ออกจากน้ำมันดีเซลหมุนเร็วโดยมีแนวทางจะลดการชดเชยจากกองทุนน้ำมันในดีเซลหมุนเร็วพรีเมียม และมอบให้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ไปดำเนินการในข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอ กบน. ต่อไป

ทั้งนี้ยังได้เห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น กำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสมของกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 โดยปริมาตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 10 โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20    ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 20 โดยปริมาตร และยังคงขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันให้คงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุม กบง. ยังได้เห็นชอบการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนส่วนเพิ่ม ภายใต้แนวทางการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ปี 2565 โดยรับซื้อพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และ/หรือผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) จากสัญญาเดิม และนอกเหนือจากกลุ่มสัญญาเดิม โดยรับซื้อพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมจากผู้ผลิตไฟฟ้าประเภทชีวมวลหรืออื่นๆ นอกเหนือจากชีวมวล จากผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว ไม่มีการลงทุนใหม่ และมีความพร้อมในการจำหน่ายไฟฟ้าซึ่งระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง สามารถรองรับได้ โดยเป็นการรับซื้อปีต่อปี ไม่เกิน 2 ปี ในรูปแบบสัญญา Non-Firm โดย กบง. มอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป