posttoday

ปตท.กวาดกำไรครึ่งปีแรก 5.7 หมื่นล้าน คาดน้ำมันแตะ 68 เหรียญฯ

11 สิงหาคม 2564

ปตท.ชี้ธุรกิจปิโตร-โรงกลั่นเติบโตดี ดันกำไรไตรมาส2/64 พุ่ง 103% ส่งผลภาพรวม 6 เดือนแรก กำไร 5.7 หมื่นล้านบาท คาดราคาน้ำมันดิบปลายปีแตะ 68 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

รายงานข่าวจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 ของปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 533,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 จากไตรมาสก่อน   มีกำไรสุทธิ 24,578.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.91% เนื่องจากปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA เพิ่มขึ้น 58,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า100 % มาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีที่มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับวัตถุดิบทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นมาจากของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ปรับเพิ่มขึ้นตามปริมาณขาย เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น โดยหลักจากการเข้าซื้อโครงการโอมาน แปลง 61 ในเดือนมีนาคม 2564 และโครงการมาเลเซีย-แปลง เอช ที่เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 รวมถึงราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันและก๊าซฯที่ ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ผลการดำเนินงานยังคง แข็งแกร่งตามรายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นตามกล่าวข้างต้น แม้ว่ากำไรจากสต็อก น้ำมันของกลุ่ม ปตท. ปรับลดลงประมาณ 4,000 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขั้นในอัตราที่น้อยกว่าใน ไตรมาสก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2564 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 1,011,093 ล้าน บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี 2563 (1H2563) จำนวน 186,201 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.6 จากเกือบทุกกลุ่ม ธุรกิจ ทั้งจากราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากปีก่อน มี EBITDA จำนวน 216,163ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129,570ล้านบาท หรือมากกว่าร้อยละ 100.0  และมีกำไรสุทธิ  57,166ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46,667 ล้านบาท หรือ หรือมากกว่าร้อยละ 100.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สถานะการเงินของ ปตท. และบริษัทย่อย ณ 30 มิถุนายน 2564 มีสินทรัพย์รวม 2,823,897ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 279,714ล้านบาท หรือร้อยละ 11.0   จาก ณ 31ธันวาคม 2563   สาเหตุหลักจากที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เพิ่มขึ้น 95,215 ล้านบาท จากการเข้าซื้อธุรกิจของ PTTEP รวมถึงลูกหนี้และสินค้าคงเหลือที่เพิ่มขึ้นตามราคา ผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น ขณะที่มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 1,407,994ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149,656ล้านบาท หรือร้อยละ 11.9 ซึ่งมา จากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวจำนวน 78,813ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลังปตท.คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 63-68 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2.0-2.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล