posttoday

ซีอาร์จี กางแผนปี64 คุมต้นทุน-ลดความเสี่ยง ธุรกิจร้านอาหาร 15 แบรนด์ ฝ่าวิกฤตโควิด  

05 กุมภาพันธ์ 2564

ซีอาร์จี ผู้ให้บริการ 15 แบรนด์ร้านอาหารกว่า 1,175 สาขาทั่วประเทศ ขอปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจร้านอาหาร เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะไม่มีวันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป หลังวิกฤตโควิดผ่านพ้น

นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (Central Restaurants Group) หรือ ซีอาร์จี เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนธุรกิจร้านอาหารในเครือทั้ง 15 แบรนด์ให้มีความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจ โดยแผนดำเนินงานจะมุ่งเน้นในด้านหลักๆ ประกอบด้วย การบริหารจัดการต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆให้เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถจัดการต้นทุนให้สอดคล้องกับยอดขายได้ดี รวมถึงการ upskill – reskill เพื่อดึงศักยภาพของพนักงานออกมาใช้ในการทำงานให้มากขึ้น สามารถทำงานได้หลากหลายมากขึ้น

แนวทางดังกล่าว เพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ และกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย รวมถึงสถานการณ์ต่างๆที่ยังมีความไม่แน่นอน 

ขณะที่โจทย์หลักของบริษัท คือ การเพิ่มยอดขายเพื่อมาชดเชยรายได้ในส่วนที่หายไป โดยได้เร่งหาช่องทางอื่นที่เพิ่มรายได้ ทั้งช่องทางออนไลน์และที่หน้าร้าน อาทิ หันมาโฟกัส O2O ออนไลน์-ออฟไลน์ มากขึ้น มุ่งเน้นเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซและระบบแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำต่างๆ 

รวมถึงการพัฒนาโมเดลการขายใหม่อย่าง Line OA ให้พนักงานหน้าร้านสามารถรับออเดอร์จากลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที โดยมีระบบสนับสนุนรองรับ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับการให้บริการเดลิเวอรี่ และผลิตภัณฑ์แบบ Ready to eat และ Ready to heat เพื่อสะดวกต่อการรับประทานอาหารที่บ้าน

ขณะเดียวกัน จากพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปและอาจจะไม่กลับมาเป็นเหมือนก่อน จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเปิดร้านใหม่ ปรับพอร์ทร้านค้าให้ออกไปอยู่นอกศูนย์การค้ามากขึ้น รวมถึงเปิดร้านในโมเดลที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจในรูปแบบใหม่ซึ่งก็คือเดลิเวอรี่และออมนิชาแนล อาทิ Delco, Hybrid Cloud ,Mini Store, Kiosk และร้านที่เป็น Stand Alone เนื่องจากมีโครงสร้างค่าใช้จ่ายต่ำ มีความยืดหยุ่นสูง

ร่วมมือกับพันธมิตร Aggregator ชั้นนำ เพื่อสร้างวาไรตี้ด้านเมนู แคมเปญ และโปรโมชั่นต่างๆ โดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายในช่องทาง เดลิเวอรี่ เติบโตสูง 30% และมีสัดส่วนรายได้ถึง 20-25% และเสริมจุดแข็งของ Own Platform บริการ CRGDelivery1312 และ FOODHUNT ของเครือ ซีอาร์จี ด้วยการ Offer

ความพิเศษที่มีเฉพาะในช่องทาง Own Platform โดยเน้นที่แบรนด์ที่มีรอยัลตี้ (Royalty) สูงอย่างแบรนด์ โอโตยะ เช่น เมนูพิเศษที่ทานได้เฉพาะการสั่งจาก CRG Delivery 1312 และ FOODHUNT เท่านั้น

ขณะเดียวกันก็นำเอาเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาใช้ในธุรกิจอาหารมากขึ้น เพื่อให้พร้อมรับมือ ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบ New Normal อีกทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ และการส่งมอบประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้า อาทิ Robot Service หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร, บริการ QR Menu สั่งอาหารได้โดยไม่ต้องสัมผัสเมนู หรือ QR Ordering สั่งอาหารตรงเข้าครัวโดยไม่ต้องผ่านพนักงาน,บริการ Self Pick-up สั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่นแล้วมารับที่ร้าน และการรับชำระเงินแบบ Cashless Payment เป็นต้น

พร้อมยังคงเน้นย้ำในเรื่องของมาตรการความปลอดภัย ให้ไกลห่างโรคโควิด-19 ด้วยแผน 3C คุมเข้มที่ร้านอาหารในเครือซีอาร์จีทุกสาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1) Cleanliness Procedure คัดกรองอย่างเข้มงวด รักษาความสะอาดทุกขั้นตอน 2) Consideration of Social Distancing Measures เน้นย้ำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และ 3) Contactless Service การให้บริการแบบไร้สัมผัส เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการทุกคน

ปัจจุบัน ซีอาร์จี มีแบรนด์ธุรกิจร้านอาหารที่หลากหลาย ครอบคลุมเกือบทุกประเภทอาหาร จำนวน 15 แบรนด์ ครอบคลุม 1,175 สาขาทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ม.ค. 2564) ประกอบด้วย มิสเตอร์โดนัท (Mister Donut), เคเอฟซี (KFC), อานตี้ แอนส์ (Auntie Anne’s), เปปเปอร์ ลันช์ (Pepper Lunch), ชาบูตง (Chabuton),โคล สโตน ครีมเมอรี่ (Cold Stone Creamery), ไทยเทอเรส (Thai Terrace),โยชิโนยะ(Yoshinoya), โอโตยะ (Ootoya), เทนยะ(Tenya), คัตสึยะ(Katsuya), อร่อยดี (Aroi Dee), เกาลูน (Kowlune) สลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory) และ บราวน์ คาเฟ่ (Brown Café) พร้อมบริการเดลิเวอรี่อร่อย ได้ทุกร้านผ่านโมบายล์แอพพลิเคชั่น “FOODHUNT”