แนะ 8 ทางรอดเศรษฐกิจไทย
สภาพัฒน์ แนะรัฐบาล 8 ทางรอดเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ กล่าวว่า ประเด็นการบริหารเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2563 และปี 2564 รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับ 7 ด้าน ประกอบด้วย
(1) การป้องกันการกลับมาระบาดระลอกที่สองในประเทศ
(2) การดูแลภาคเศรษฐกิจที่มีข้อจำกัดในการฟื้นตัว
2.1 การเร่งรัดติดตามมาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้วให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการพิจารณามาตรการเพิ่มเติมหรือปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองสาขาและพื้นที่เศรษฐกิจที่มีข้อจำกัดในการฟื้นตัว
2.2 การช่วยเหลือและดูแลแรงงาน
2.3 การรณรงค์ให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
2.4 การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคอย่างรัดกุม
2.5 การดำเนินการด้านวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
(3) การขับเคลื่อนการใช้จ่ายภาครัฐ
3.1 การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ให้ได้ไม่น้อยกว่า 94.4%
3.2 งบลงทุนรัฐวิสาหกิจให้ได้ไม่น้อยกว่า 70%
3.3 งบเหลื่อมปีให้ไม่น้อยกว่า 85%
3.4 การเบิกจ่ายโครงการตามพระราชกำหนดเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ให้ได้ไม่น้อยกว่า 70%
(4) การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการผลิตและการลงทุนภาคเอกชน
4.1 การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าที่ได้รับประโยชน์จากการระบาดของโรคโควิด-19
4.2 การขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า
4.3 การให้ความสำคัญกับข้อตกลงระหว่างประเทศที่อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า
4.4 การลดต้นทุนการผลิตสินค้าที่สำคัญๆ
4.5 การป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนและการแข็งค่าของเงินบาท
4.6 การส่งเสริมการตลาดเชิงรุกผ่านช่องทางออนไลน์
(5) การส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน
5.1 เร่งรัดให้ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติและออกบัตรส่งเสริมการลงทุนในช่วงปี 2561 - 2563 ให้เกิดการลงทุนจริง
5.2 การขับเคลื่อนการส่งออกเพื่อเพิ่มการใช้กำลังการผลิต
5.3 การแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนและการประกอบธุรกิจ
5.4 การประชาสัมพันธ์จุดแข็งของประเทศไทย
5.5 การขับเคลื่อนมาตรการสร้างศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
(6) การดูแลราคาสินค้าเกษตรในบางพื้นที่ในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด และการเตรียมการรองรับปัญหาภัยแล้ง
(7) การรักษาบรรยากาศทางการเมืองในประเทศ
(8) การเตรียมการรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกและการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
นายดนุชา กล่าวว่า เศรษฐไทยไตรมาส 3 ปี 2563 ขยายตัวติดลบ 6.4% เป็นการปรับตัวลดน้อยกว่าที่คาดการไว้มาก และเศรษฐกิจไทย 9 เดือนแรก ขยายตัวติดลบ 6.7% เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวได้ดี และประเทศเริ่มมีการประเทศเกือบ 100% ยกเว้นการจำกัดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เท่านั้น ทำให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวได้ดีขึ้น
สำหรับเศรษฐกิจไทย ปี 2563 คาดว่าจะขยายตัวติดลบ 6% จากเดิมที่คาดว่า 7.5% สำหรับเศรษฐกิจปี 2564 จะกลับมาขยายตัวเป็นบวกที่ 3.5-4.5%