ไทยปักธงฐานผลิตฮับ รถ EV ตอบโจทย์ยานยนต์แห่งอนาคต

นายดุสิต อนันตรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการชี้นำและเตือนภัยภาคอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยในงานสัมมนาออนไลน์ 5 First S-Curve “ยานยนต์แห่งอนาคตพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุค New Nomal จัดโดยโพสต์ทูเดย์ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(สสปน.) และสภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นภาคธุรกิจที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการลงทุนให้กับเศรษฐกิจไทย โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 11 % ของจีดีพีประเทศ แต่ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งการส่งออกที่ลดลง ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีออเดอร์ลดลงต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ จำเป็นต้องเร่งผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งตามแผนยุทธศาสตร์ยานยนต์ ภาครัฐมีเป้าหมายกระตุ้นให้เกิดการลงทุนไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคต ได้แก่ รถไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicles) รถบัสไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

ปัจจุบันมีค่ายรถยนต์ให้ความสนใจยื่นขอส่งเสริมการลงทุนผลิคตรถไฟฟ้า หรือ EV จำนวน 13 โครงการ มีกำลังการผลิต 1.25 แสนคันต่อปี  มูลค่าลงทุน 1.56 หมื่นล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ไปแล้วสำหรับผู้ผลิต ทั้งการลดภาษีสรรพสามิต 0% เป็นระยะเวลา3 ปี ส่วนมาตรการจูงใจผู้ใช้รถยนต์นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา เช่น การชาร์จไฟ ฟรี หรือ หักลดหย่อนภาษีนิติบุคคล หรือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยจะเสนอให้ครม.ใหม่พิจารณา

ด้านายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วิกฤตโควิดที่เกิดขึ้น มีผลกระทบต่อดีมานด์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก แต่มองตรงนี้ว่าเป็นโอกาสเพราะไทยมีซัพพลายเชนที่ครบและมีฐานลูกค้าของยานยนต์ที่แข็งแรง สะท้อนได้จากยอดจองรถในงานบางกอกมอเตอร์โชว์

โดยเฉพาะยานยนต์ในอนาคตที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ถ้าอยากให้รถEV เกิดขึ้นเร็วในไทย ต้องสร้างโอกาสให้เกิดการลงทุนเร็วกว่าประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการผลิตแบตเตอร์รี่ที่สามารถชาร์จเร็วใน 15 นาที และการตั้งสถานีชาร์จให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ เพราะจะเป็นการตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้รถยนต์ที่เกิดความสะดวก ถ้าทำให้เกิดความสำเร็จได้ ไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถEV ได้แน่นอน

“ผมมองว่าการส่งเสริม รถEV ตอบโจทย์แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้ และแก้ปัญหาฝุ่น อยากให้ส่งเสริมการใช้และการผลิต โดยมีเป้าหมายคือ ไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาค ภาครัฐควรออกมาตรการเพื่อให้มีการลงทุน ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และการผลิตในประเทศ เชื่อว่ารถEV ต้องได้ไปต่อ เราใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องยนต์พลิกฟิ้นเศรษฐกิจ สร้างเอสเคิร์ฟใหม่  ที่ผ่านมาเราเสียประโยชน์ให้กับจีนจาการการทำข้อตกลง เอฟทีเอ  โดยรถยนต์ที่มาจากจีน มีอัตราภาษี0 %

ดังนั้นรัฐ และเอกชนจะต้องข่วยกัน ตอนนี้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจหลายตัวดับหมด ถ้าเรายังไม่มีเครื่องมืออื่นก็ต้องหวังอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาช่วย” นายสมโภชน์ กล่าว 

นายปราจิน  เอี่ยมลำเนา  ประธานกรรมการบริหารบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล  จำกัด  กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทรถยนต์ ส่วนใหญ่มีไลน์ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งนั้น แต่ภาครัฐบาลบางครั้งก็ไม่มีความชัดเจนในเรื่องนโยบายการส่งเสริม ทำให้เอกชนไทยต้องดำเนินการเอง ภาครัฐยังตีโจทย์ไม่แตก เอาปัญหามาเป็นที่ตั้งมากเกินไปและเป็นตัวสกัดกั้น ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น บางครั้งก็เอื้อกับบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป  อย่าไปรอภาครัฐ ขออย่างเดียวอย่ามายุ่งมาก เพราะอาจมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามา      

อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยยังมีศักยภาพในการลงทุน ในขณะที่ผู้บริโภคก็ยังมีความต้องการใช้รถยนต์ตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป สะท้อนได้ จากงานบางกอกมอเตอร์โชว์ ที่จัดขึ้นทุกปี มีผู้ให้ความสนใจ มีค่ายรถยนต์นำรถยนต์รุ่นใหม่มาแสดงและถือว่าเป็นงานที่เป็นตัวชี้วัดของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ดีว่าจะไปในทิศทางใด