posttoday

เร่งรัฐฟื้นฟูศก. ชงกู้เงินเพิ่ม1ล้านล้าน ขอพักหนี้อีก2ปี

07 สิงหาคม 2563

ภาคเอกชนเร่งรัฐตั้งคณะฟื้นฟูศก. กู้เงินอัดฐานรากเพิ่้ม 1 ล้านล้าน พักหนี้เอสเอ็มอียาว 2 ปี หลัวพิษโควิด-19 ลากยาว

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ภาระกิจสำคัญเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ คือ การตั้งคณะฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ เหมือนคณะทำงานแก้ปัญหาโควิด-19 ที่รัฐบาลดำเนินการได้ผลดีในปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลควรรีบตั้งคณะฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เพราะมี ครม. ใหม่แล้ว การเมืองนิ่งแล้ว คณะทำงานนี้จะเสนอมาตรการในทิศทางเดียวกันทำได้ทันที ไม่ต้องกระจายเป็นย่อยๆ แล้วค่อยๆ เสนอขึ้นมาเหมือนในอดีตทำให้เกิดความล่าช้า

สำหรับภาคเอกชนได้มีการรวมตัวกันแล้ว นอกจาก คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่มี สอท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ยังมีเอกชนเข้ามาร่วมเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่จะเข้าร่วมเป็นคณะฟื้นฟูเศรษฐกิจกับภาครัฐ

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่คณะฟื้นฟูเศรษฐกิจควรเร่งดำเนินการ คือ การแก้ปัญหาสภาพคล่องของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งภาคเอกชนจะเสนอให้มีการยืดหนี้ออกไปอีก 2 ปี โดย 6 เดือนแรกพักทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ส่วนที่เหลืออีก 1 ปี ครึ่ง ให้พักเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย

"เอกชนเห็นว่าปัญหาโควิด-19 ยืดเยื้อถึงปีหน้า ซึ่งภาคเอกชนยังไม่สามารถทำรายได้เข้ามาจนมีกำไรได้ ดังนั้นจึงมีการเสนอยืดเวลาการพักชำระหนี้ออกไปอีก 2 ปี ไปจนถึงปี 2565 โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนผันเงื่อนไขให้สถาบันการเงินไม่นับการพักหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้เสีย" นายสุพันธุ์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังจะมีการเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพราะมีผู้บริโภคจำนวนหนึ่งยังมีกำลังซื้อ รวมทั้งภาครัฐต้องเร่งการใช้จ่าย และการเร่งให้บรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาช่วยค้ำประกันปล่อยกู้ซอฟท์โลนของ ธปท. 5 แสนล้านบาท ที่ขณะนี้ปล่อยกู้ได้เพียง 1 แสนล้านบาท จะทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ผลกระทบจากโควิดทำให้เศรษฐกิจเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เพราะมูลค่าการท่องเที่ยวของไทยปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท ขณะนี้มีคนตกงานแล้ว 3 ล้านคน ถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการใหม่เพิ่มเติม หรือมาตรการเดิมขยายออกไปให้เกิดผลจะมีคนตกงานปีนี้ 6-7 ล้านคน และมีผู้ประกอบการทยอยปิดกิจการเพิ่มมากขึ้น

"ผมคิดว่ารัฐบาลต้องใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจมากกว่านี้ วงเงินจากการออก พ.ร.ก. 3 ฉบับ 1.9 ล้านล้านบาท ยังไม่เพียงพอ เห็นว่ารัฐบาลควรออกพ.ร.ก. กู้เงินเพิ่มอีก 1 ล้านล้านบาท เพื่อมาดูแลเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งสามารถทำได้เพราะหนี้สาธารณะของประเทศอยู่ระดับต่ำ โดยภาคเอกชนจะเสนอคณะฟื้นฟูเศรษฐกิจหากรัฐบาลมีการจัดตั้ง" นายสุพันธุ์ กล่าว