จับตา คลังชงครม.ศก. เคาะมาตรการภาษีหนุนออม–ลงทุน รายบุคคล ผ่าน ISA
เอกนิติ เตรียมดันมาตรการส่งเสริมการออมรายบุคคลผ่าน ISA เข้าครม.เศรษฐกิจ เปิดทางประชาชนเลือกลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้ ลดความเหลื่อมล้ำด้านภาษี และคลี่ปัญหาบิดเบือนตลาดจาก LTF
KEY
POINTS
- กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุนส่วนบุคคล (Individual Saving Account: ISA) ให้คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจพิจารณา
- ISA เป็นเครื่องมือการออมที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกสินทรัพย์ เช่น หุ้น หรือพันธบัตร ได้อย่างยืดหยุ่นตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ประชาชน สนับสนุนตลาดหุ้นไทย และลดความเหลื่อมล้ำทางภาษีที่เคยเกิดจากกองทุน LTF
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ พิจารณาเกี่ยวกับนโยบายเพื่อส่งเสริมการออมของประชาชน และสร้างความมั่นคงให้กับคนไทย โดยเฉพาะมาตรการในการสนับสนุนการออมรายบุคคล (Individual Saving Account :ISA) ซึ่งเป็นเครื่องมือการออมที่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ และยังเป็นการสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้ใหญ่ขึ้นด้วย ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการเร่งพิจารณา
ลักษณะการออมและการลงทุนภายใต้ Individual Saving Account (ISA) ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเสนอของภาคตลาดทุน คือการเปิดทางให้ประชาชนเลือกวิธีออมหรือการลงทุนได้เองตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรือสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอื่น ๆ ก็ทำได้อย่างยืดหยุ่นภายใต้เพดานที่รัฐกำหนด แทนระบบเดิมที่จำกัดให้ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะอย่าง เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF) หรือกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) แนวทางนี้คาดว่าจะตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่หลากหลายกว่า ลดความซ้ำซ้อนของผลิตภัณฑ์ที่ออกเพื่อสิทธิลดหย่อนภาษี และช่วยลดการบิดเบือนตลาดทุนจากมาตรการภาษีในอดีต
มาตรการดังกล่าวยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านภาษี เพราะที่ผ่านมา ผู้มีรายได้สูงเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากสิทธิ LTF มากที่สุด ขณะที่รัฐสูญเสียรายได้ราวปีละ 2 หมื่นล้านบาท โดยกว่า 1.6 หมื่นล้านบาทตกอยู่กับผู้เสียภาษีในฐาน 30–35%
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังศึกษาการเปิดให้ประชาชนออมผ่านพันธบัตรรัฐบาลรายเดือน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ต้องการความมั่นคง โดยมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ที่ปัจจุบันอยู่เพียงราว 0.25%


