posttoday

กกร.ห่วงเศรษฐกิจไทยขาดแรงขับเคลื่อน คาดจีดีพีติดลบหนักสุด 9%

05 สิงหาคม 2563

กกร.ตัดสินใจปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้ติดลบ 7-9% ส่งออกติดลบ 10 % หลังเศรษฐกิจไทยยังไร้ทิศทาง กำลังซื้อหาย รายได้ท่องเที่ยวไม่มี ขาดแรงขับเคลื่อนสำคัญ

นายกลินท์  สารสิน   ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมเอกชน3 สถาบัน (กกร.)  ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย   ว่า ที่ประชุม กกร. มีความเป็นห่วงต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงข้างหน้า ซึ่งยังขาดแรงขับเคลื่อนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก

ขณะที่มาตรการเยียวยาของรัฐบาล กำลังจะสิ้นสุดลง และสถานการณ์การจ้างงานยังเปราะบาง การประชุมรอบนี้ ได้ตัดสินใจปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย(จีดีพี) ในปี 2563  ลงมาเป็น ติดลบ 7-9 % จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้จะติดลบตั้งแต่ 5-8% และปรับลดคาดการณ์การส่งออกติดลบ10- 12 %   จากเดิมติดลบ 7-10 %  ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไว้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง    

ทั้งนี้ แม้เครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือนมิ.ย. 2563 จะหดตัวน้อยลง แต่เศรษฐกิจไทยโดยรวมก็ยังอ่อนแออยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เศรษฐกิจไทยคงจะหดตัวในอัตราเลขสองหลัก

อย่างไรแม้ในช่วงที่เหลือของปี 2563 เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง โดยมีแรงฉุดหลักจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยหลังการระบาดของโควิดยังเพิ่มสูงขึ้นและบางประเทศพบจำนวนผู้ติดเชื้อรอบใหม่ (จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ฮ่องกง เป็นต้น) ส่งผลให้การค้าและการเดินทางระหว่างประเทศคงยากที่จะฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว

นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่ผันผวนและเริ่มมีทิศทางแข็งค่าจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออก นอกจากนี้กำลังซื้อครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับความไม่แน่นอนในตลาดการจ้างงาน ยังเป็นปัจจัยลบที่กดดันการใช้จ่ายในประเทศอย่างต่อเนื่อง

“ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังไม่ดี ค่าเงินบาทยังผันผวนกระทบส่งออก ขณะที่กำลังซื้อในประเทศยังชะลอตัว โดยยังขาดแรงขับเคลื่อนที่สำคัญโดยเฉพาะการท่องเที่ยวจากเดิมที่เคยมีรายได้ 3 ล้านล้านบาท แต่วันนี้น้อยมาก ดังนั้นต้องการให้รัฐบาลขยายระยะเวลามาตรการเยียวยาออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ “นายกลินท์  กล่าว

นายสุพันธุ์  มงคลสุธี  ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กกร.ได้จัดตั้งคณะทำงาน กกร.ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อร่วมกันจัดเตรียมแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการปฏิรูปเศรษฐกิจโดยจะมีการผลักดันแผน 4 เรื่องเพื่อให้เกิดผลได้จริง ได้แก่ 1.การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิง Wellness 2. การยกระดับการเกษตรมูลค่าสูง 3. การเพิ่มโอกาสของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กในธุรกิจเป้าหมาย และ 4. การยกระดับสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนของภูมิภาค

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ข้อสรุปแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจดังกล่าวแล้ว จะนำไปหารือและเสนอให้มีมาตรการช่วยเหลือจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ในเร็วๆนี้