“สนธิรัตน์”สั่งรื้อเกณฑ์โซลาร์ประชาชนลดอุปสรรค สรุปเสร็จใน 60 วัน
“สนธิรัตน์” ตั้งคณะทำงานทบทวนเงื่อนไขโครงการโซลาร์ภาคประชาชนใหม่ หลังมีคนมายื่นแค่ 1.8 เมกะวัตต์ คาดอีก 2 เดือนโมเดลใหม่คลอด
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมการบริหารจัดการโซลาร์ รูปแบบใหม่ว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1ชุดเพื่อทบทวนหลักเกณฯฑ์การรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PV Rooftop) สำหรับภาคประชาชน ซึ่งกำหนดเป้าหมายไว้เพียง 50 เมกะวัตต์ในระยะ5ปี จากเดิมที่กำหนดไว้ 100 เมกะวัตต์ในระยะ 10 ปี
ทั้งนี้ที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวมีอุปสรรคหลายด้านทำให้มีผู้มายื่นเสนอโครงการเพียง 1.8 เมกะวัตต์ โดยการพิจารณาหลักเกณฑ์ใหม่จะพิจารณาตั้งแต่เรื่องของอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่กำหนดไว้ 1.68 บาทต่อหน่วย จะปรับเพิ่มขึ้นได้อย่างไร การนำระบบ Net Meterring มาใช้ ตลอดจนการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อมาสนับสนุนให้เกิดการติดตั้งโซลาร์เซลล์ภาคประชาชน และการกำหนดพื้นที่ รวมถึงความพร้อมของระบบสายส่งไฟฟ้าที่จะมารองรับ
“อีก 2 เดือน การพิจารณาเกณฑ์โซลาร์ภาคประชาชนต้องมีผลในทางปฏิบัติ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนได้เพราะสามารถผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เอง โดยปัญหาอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นจะต้องทลายมันออกไปให้หมด”นายสนธิรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 30 มิ.ย.คาดว่าจะมีการพิจารณาแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พ.ศ.2561-2580) หรือพีดีพี2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่1 รวมทั้งเงื่อนไขการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติก็จะสามารถเริ่มดำเนินได้ในวันที่ 1 ก.ค. โดยเริ่มก่อนที่โครงการ Quick Win 100 เมกะวัตต์
ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล แกนนำเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) กล่าวว่า โครงการโซลาร์ภาคประชาชนจะช่วยตอบโจทย์เรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การช่วยลดรายจ่าย และเปิดหลังคาบ้านเพื่อหารายได้ ซึ่งได้เสนอว่ารัฐควรนำระบบ Net Meterring มาใช้ โดยการเปิดรับซื้อไฟฟ้าในส่วนที่เหลือจากการใช้ภายในบ้านแล้ว