สศช.ซักซ้อมส่วนราชการชงโครงการใช้งบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้าน

นายทศพร  ศิริสัมพันธ์  เลขาธิการคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)   เปิดเผยว่า  สศช. ได้เชิญส่วนราชการมารับฟังการชี้แจงแนวทางการเสนอโครงการภายใต้กรอบนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) วงเงิน 4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้ กู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 หรือ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้โครงการที่หน่วยงานต่างๆ จะเสนอเข้ามาเพื่อใช้จ่ายงบประมาณส่วนนี้จะอยู่ในกรอบ 4 ด้านได้แก่ 1.การลงุทนและกิจกรรมการพัฒนาที่สามารถพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ  2.การฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนซึ่งจะเป็นส่วนที่มีการใช้จ่ายงบประมาณมากที่สุดเกินกว่า 50%  3.ส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน และ 4.สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานละสนับสนุนกระบวนการผลิต

“หลังชี้แจงกรอบการเสนอโครงการแล้ว จะให้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ให้ส่วนราชการเสนอโครงการเข้ามายังคณะกรรมการกลั่นกรอง หรือเริ่มเสนอตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 2563 จากนั้นคณะกรรมการฯจะรวบรวมพิจารณาและเสนอต่อ ครม. ต่อไป ซึ่งประมาณต้นเดือนก.ค. เงินงบประมาณจะทยอยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงรอยต่อ ก่อนที่จะเริ่มมีการใช้จ่ายงบประมาณปี 2564 ตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นต้นไป โดยการเสนอโครงการคงจะไม่ช้าเนื่องจากชุมชนทั่วประเทศ มีโครงการที่รอไว้อยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นโอกาสที่จะได้รับงบประมาณไปดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์กับท้องถิ่น”นายทศพรกล่าว

สำหรับการลงทุนและกิจกรรมการพัฒนาที่สามารถพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ จะเน้นไปที่โครงการที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับภาคเศรษฐกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพได้แก่ภาคการเกษตร ที่จะมุ่งส่งเสริมให้เกิดกการทำเกษตรคุณภาพสูง และภาคการท่องเที่ยว เพื่อสร้างการท่องเที่ยวคุณภาพสูง  ส่วนการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน นั้น ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน เช่นระบบน้ำ และเน้นให้เกิดการจ้างงาน

ขณะที่การส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคครัวเรือนและเอกชนนั้น อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด เบื้องต้นอาจจะเป็นมาตรการด้านกระตุ้นการท่องเที่ยว เช่น เดิมราคาห้องพัก 3,000 บาท ประชาชนจ่ายเพียง 1,500 บางส่วนได้รับสนับสนุนจากงบประมาณส่วนนี้เป็นต้น  ส่วนกระตุ้นการบริโภคจะเหมือนช้อปช่วยชาติ หรือชิม ช้อป ใช้ หรือไม่คงจะรอรายละเอียดอีกครั้ง

นายทศพล  กล่าวว่า ในส่วนการใช้งบประมาณนั้นจะไม่ใช่การแบ่งโควตาตามกระทรวง เพราะการใช้จ่ายเงินตาม พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั้น มีบัญชีแนบท้ายกรอบการใช้จ่ายเงินชัดเจนว่าใช้จ่ายส่วนใดได้บ้าง หน่วยงานใดที่สามารถเสนอโครงการมาตามกรอบโครงการมาก็ได้รับการพิจารณา 

ส่วนการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณนั้น จะมีระบบให้ทุกหน่วยงานรายงานผลเข้าสู่ระบบที่เปิดเผยให้ประชาชนตรวจสอบได้ว่าแต่ละกระทรวงมีโครงการอะไร ใช้จ่ายงบประมาณเข้าไปในส่วนใด ควบคืบหน้าถึงไหนแล้ว และมีผู้ตรวจราชการของแต่ละทรวงคอยติดตามควบคืบหน้าของโครงการ