ซีอีโอปตท.คนใหม่ลั่น !!! พร้อมพาองค์กรฝ่าวิกฤต การันตีผลประกอบการต้องเป็นบวก

นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  ได้วีดีโอคอนเฟอร์แรนท์กับฝ่ายบริหารและพนักงาน ปตท.ในวันแรกของการรับตำแหน่ง ว่า ปตท.มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต   จากการประเมินฐานะการเงินผ่านการทำ Stress test  มั่นใจผลการดำเนินงานในปี 2563 จะเป็นบวก แม้ในในช่วงไตรมาส 1/63 จะมีผลขาดทุนสุทธิ 1,550 ล้านบาท หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19   

ทั้งนี้คาดจะมีผลกระทบกับผลการดำเนินงานของ ปตท.ในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ขณะที่คาดว่าธุรกิจน่าจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และ 4  ขณะเดียวกันกลุ่มปตท.ยังมีศักยภาพการลงทุนตามแผนในปีนี้ที่  1.4  แสนล้านบาทและมีแผนลงทุนระยะ 5 ปี มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท

สำหรับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยในมุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังประเมินว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้ น่าจะติดลบ 5.3% ซึ่งถือเป็นความความโชคดีที่ไทยมีระบบสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นมืออาชีพ ทำให้ได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่คาดไว้

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำกับพนักงานของ 

ปตท.ว่าถึงแม้รัฐจะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลง แต่พนักงาน ปตท.ทุกคน ยังต้องเคร่งครัดกับการดูแลตัวเองตามมาตรการรัฐ ในเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย  ดูแลเรื่องความสะอาด เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโควิด-19 เกิดการระบาดซ้ำ  โดยในส่วนของการปรับตัวรองรับสถานการณ์และลดผลกระทบของ ปตท.นั้นได้ มีการจัดตั้ง PTT Group Vital Center ขึ้นมา เพื่อที่จะดูแลและบริหารจัดการในช่วงนี้ รวมทั้งการวางแผนไปข้างหน้า โดยการบริหารจัดการจะดำเนินการตาม 4 R  ประกอบด้วย

Resillience การสร้างความยืดหยุ่นและการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง  สร้างความปลอดภัยให้พนักงาน ประเมินสุขภาพองค์กร โดยจัดทำ Stress test ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น จัดลำดับความสำคัญโครงการลงทุนของปตท. จัดทำ Group optimization ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ทั้ง Value Chain และการรักษาสภาพคล่องขององค์กร

Restart เตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจนำพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด รักษาความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มปตท.ไว้ให้ได้   

Re-imagination การเตรียมความพร้อมที่จะออกแบบธุรกิจให้รองรับการเปลี่ยนทางธุรกิจที่จะเป็น Next Normal ทั้งธุรกิจ ต้นน้ำ ปลายน้ำ และ New S Curve

Reform จะต้องมีการปรับเปลี่ยน จัดโครงสร้างองค์กร รูปแบบธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคตพร้อมรองรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดแบบไม่คาดคิดได้ทุกเมื่อ โดยเตรียมที่จะนำแผนของ Re-imagination และ Reform เข้าสู่ที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงกลุ่ม 

ปตท.เพื่อกำหนดยุทธ์ศาสตร์และทิศทางในอนาคตกลุ่ม (Strategic Thinking Session:STS) ต่อไป นายอรรถพล กล่าวว่า มีแนวคิดที่เรียกว่า Powering Thailand’s Transformation หรือ PTT โดยมีความมุ่งหวังที่จะทำให้กลุ่มปตท.เป็นองค์กรด้านพลังงานของประเทศไทยที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกภาคส่วน ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ พัฒนาสังคม และคุณภาพชีวิตของคนไทย

ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รมว.พลังงาน  กล่าวภายหลังนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ซีอีโอปตท. เข้าพบว่า ได้ให้กำลังใจแก่นายอรรถพล ในการทำงาน สิ่งสำคัญต้องกู้วิกฤติที่ผลประกอบการปตท.ขาดทุนในไตรมาส 1/2563  จากการระบาดโควิด-19 ที่กระทบต่อทุกด้านอย่างรุนแรงดังนั้นไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้บริหารในช่วงนี้ต้องใช้ความสามารถ ทำงานหนัก ทุ่มเท ใช้พลังมากกว่าปกติ   หาแนวทางแก้ปัญหาเหล่านี้ ให้กลับมาเป็นปกติ   ซึ่งอะไรที่กระทรวงพลังงานจะสนับสนุนการแก้ปัญหาได้ก็พร้อม