posttoday

เตือนร้านค้า!! ห้ามกักตุนขายเกินราคา 'หน้ากากอนามัย'โทษสูงสุดติดคุก7 ปี

29 มกราคม 2563

"จุรินทร์" สั่งพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัย ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา กักตุนสินค้าหวังกำไร กระทบประชาชน พร้อมหารือผู้ผลิตเพิ่มออเดอร์ รองรับความต้องการ

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั้ง 76 จังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล ภาคเหนือตอนบน และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ติดตาม ตรวจสอบภาวะราคา และปริมาณการจำหน่ายหน้ากากอนามัยในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้กำกับดูแล ร้านค้า ผู้แทนจำหน่ายให้มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน และไม่ถือโอกาสฉกฉวยขึ้นราคา รวมทั้งให้แนะนำแหล่งจำหน่ายให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยได้

“การดำเนินการ มีเป้าหมาย เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสกักตุนสินค้า ขึ้นราคาสินค้า หรือสินค้ามีไม่เพียงพอ และอาจส่งผลกระทบทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เพราะขณะนี้มีความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มสูงขึ้นมาก ทั้งจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และปัญหาฝุ่น PM 2.5”นายบุณยฤทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ หากพบว่ามีการกักตุนสินค้าและฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรม จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่ผู้บริโภค พบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรม หรือพบเห็นผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ทางสายด่วน 1569 หรือร้องเรียนได้โดยตรง ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายทันที

นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า สำหรับการเพิ่มกำลังการผลิตหน้ากากอนามัย ขณะนี้กรมการค้าภายใน อยู่ระหว่างการหารือกับผู้ผลิต เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตแล้ว และยังได้มีการประสานให้เร่งจัดส่งหน้ากากอนามัยไปยังพื้นที่ๆ ขาดแคลนแล้วเช่นเดียว และหากมีความจำเป็น ก็จะเพิ่มจุดจำหน่ายหน้ากากอนามัยตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถหาซื้อได้ด้วย