posttoday

มาตามนัด !! ม็อบรถเมล์ 300 คนบุกปิดกระทรวงคมนาคมค้านแปรรูป ขสมก.

21 พฤศจิกายน 2562

สหภาพฯขสมก. ยื่น 5 ข้อเรียกร้อง ถึง 'ศักดิ์สยาม' เตือนเปิดทางเอกชนเดินรถ เสี่ยงค่าโดยสารพุ่งมากกว่า 20 บาท ขู่ถอดถอนพ้นตำแหน่งรมว.คมนาคม ให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ

สหภาพฯขสมก. ยื่น 5 ข้อเรียกร้องถึง 'ศักดิ์สยาม'เตือนเปิดทางเอกชนเดินรถ เสี่ยงค่าโดยสารพุ่งมากกว่า 20 บาท ขู่ถอดถอนพ้นตำแหน่งรมว.คมนาคม ให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ที่กระทรวงคมนาคม นายบุญมา ป๋งมา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 300 คน มายื่นหนังสือสือถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เรื่อง ขอคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)

นายบุญมา เปิดเผยว่า สร.ขสมก.ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของนายศักดิ์สยาม ที่ให้นโยบายทบทวนแก้ไขแผนฟื้นฟูของ ขสมก. และยกเลิกแผนการจัดซื้อรถโดยสารจำนวน 3,000 คัน เส้นทางเดินรถในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อเปิดทางให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด และคัดค้านอย่างถึงที่สุดต่อรัฐบาลมีนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อบีบ ขสมก.ให้ยุบองค์กรแล้วเปิดทางให้เอกชนเข้ามาเดินรถเมล์แทน ซึ่งแน่นอนว่าการให้เอกชนเข้าบริหารนั้นจะต้องมีค่าโดยสารที่เพิ่มมากขึ้นกว่าราคาปกติที่ขสมก.เก็บค่าโดยสาร คือรถเมล์ปรับอากาศ 20 บาทและรถเมล์ร้อน 8-10 บาท

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ขสมก.ต้องขาดทุนจากนโยบายรัฐบาทที่ตรึงค่ารถเมล์เพี่อลดภาระประชาชน แต่หากเป็นเอกชนเข้ามาเดินรถจะไม่สามารถควบคุมค่าโดยสารได้และอาจเกิดปัญหาขึ้นมาได้ หากเอกชนประท้วงหยุดวิ่งรถเมล์ภาครัฐไม่สามารถไปบีบบังคับได้เลย ดังนั้นกระทรวงคมนาคมพยายามใช้วิธีกดดัน ขสมก.ด้วยการประกาศนโยบายให้ลดค่ารถเมล์ลงมาต่ำกว่า 18 บาท เพื่อบีบให้ขสมก.ต้องปิดตัวลง ทั้งนี้ยืนยันว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นเป็นความคิดของคนแค่ 2 คน แต่ไม่เคยมีการสอบถามไปยังประชาชน หรือพนักงานในองค์กรรัฐวิสาหกิจเหล่านั้นซึ่งมีพนักงานมากกว่า 13,000 คน จึงเป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรมจนต้องออกมาต่อต้าน

“ถ้าทางกระทรวงคมนาคมและผู้บริหารยังนิ่งเฉยต่อความเดือดร้อนในครั้งนี้ จะเดินหน้ายื่นเรื่องไปยังกรรมาธิการแรงงาน จากนั้นจะเดินหน้ายื่นเรื่องต่อฝ้ายค้านเพื่อให้ดำเนินอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงจะรวมชื่อเพื่อยื่นถอดถอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ต่อไปหากยังนิ่งเฉยต่อความเดือดร้อนของพนักงานแรงงาน ขสมก.” นายบุญมากล่าว

สำหรับหนังสือข้อเรียกร้องทั้ง 5 เรื่อง ประกอบไปด้วย 1.ให้องค์การเดินรถในเส้นทางเดิม 137 เส้นทาง ส่วนที่เหลือให้เอกชนดำเนินการ โดยไม่ต้องให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ไปกำหนดเส้นทางเดินรถใหม่ 2.เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.62 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูตามที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยให้องค์การจัดหารถใหม่ 3,000 คัน และปรับปรุงรถเก่า 323 คัน มาแทนรถเก่าที่หมดอายุการใช้งาน ให้ดำเนินการตามมติ ครม.

3.การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ (บอร์ด) อดีตที่ผ่านมา รมว. ได้แต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถไม่ตรงกับลักษณะการบริหาร ขสมก. ทำให้การบริหารงานไม่เป็นไปตามกฎหมายข้อบังคับ ระเบียบ และวิธีปฏิบัติขององค์การ ดังนั้นการแต่งตั้งบอร์ด สร.ขสมก. ขอให้แต่งตั้งอดีตผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถในการเดินรถไม่น้อยกว่า 2 คน

4.ขสมก.เป็นรัฐวิสหกิจ มีวัตถุประสค์บริการคนยากคนจน ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และสนองตอบนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการกำหนดราคาค่าโดยสาร รัฐบาลโดยกระทรวง และคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางได้กำหนดให้องค์การเก็บอัตราค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้องค์การขาดทุนสะสม ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ดังนั้นหนี้สินนั้นต้องการให้รัฐบาลชะลอแนวทางชำระหนี้ไว้ก่อน เนื่องจากขสมก.อยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านในช่วงปฏิรูปเส้นทางใหม่ จึงต้องการทดสอบเดินรถในเส้นทางใหม่ 137 เสียก่อนว่ามีปริมาณรายได้และความคุ้มค่าอย่างไร แต่ทั้งนี้ต้องการให้กระทรวงการคลังรับผิดชอบหนี้สินที่เกิดจากนโยบายรัฐบาลราว 80,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของหนี้สินทั้งหมด

และ 5.นโยบายการเกษียณก่อนกำหนด (เออลี่รีไทน์) ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ โดยไม่บังคับ ขู่เข็นและเลิกจ้างพนักงาน อย่างไรก็ตาม สร.ขสมก. เห็นว่าแนวคิดนี้ ไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหา มีแต่จะสร้างปัญหามากกว่าเติมปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงขอคัดค้านในเรื่องดังกล่าว จึงยื่นหนังสือเข้าร่วมคัดค้นการแปรรูปองค์การ ขสมก. เพื่อปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ขององค์การและสมบัติของพี่น้องประชาชนไม่ให้มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งนี้ให้ รมว.คมนาคม เร่งพิจารณาข้อเรียกร้องและแจ้งให้ทราบภายใน 7 วัน

ด้านนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมยินดีรับเรื่องข้อเสนอทั้งหมดมาพิจารณา ซึ่งจะพิจารณาไปทีละประเด็น สิ่งใดทำได้ก็จะทำให้ สิ่งไหนที่ทำไม่ได้ก็ต้องเจรจาต่อรองกัน ยืนยันทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้

รายงานข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่า ทางกระทรวงคมนาคมได้ส่งตัวแทนรัฐมนตรีมาเจรจาเพื่อขอให้ม็อบดังกล่าวยุติการประท้วงและแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยจะยอมให้เข้าพบกับ ผู้ช่วยรัฐมนตรีและผู้อำนวยการขสมก.เพื่อหารือกันถึงปัญหา ทว่ากลุ่มผู้ประท้วงไม่ยอมพร้อมกับส่งเสียงโห่ร้องยืนยันจุดยืนว่าต้องการพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพียงเท่านั้น มิเช่นนั้นจะยังคงปักหลักประท้วงหน้ากระทรวงคมนาคมต่อไป ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมได้แจ้งว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีโอกาสที่จะติดภารกิจทั้งวันเนื่องจากต้องเข้าเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส