posttoday

ปลดล็อคขนส่งพรมแดนไทย-เมียนมา

18 พฤศจิกายน 2562

คาดยอดการค้าชายแดนกลับมาเร่งตัวในปี 2563 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานผลวิจัยการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งฟที่ 2 และการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างไทย-เมียนมา (IICBTA) เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 

นอกจากจะช่วยให้การขนส่งสินค้าประหยัดเวลาและต้นทุนแล้ว ยังนับเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ไทยเป็นตัวกลางเชื่อมโยงฐานการผลิตของทั้ง 3 ประเทศ (เมียนมา-ไทย-สปป.ลาว) เข้าด้วยกันได้อย่างไร้พรมแดน 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ความสะดวกดังกล่าวทำให้การส่งออกผ่านด่านแม่สอด จ.ตาก ทยอยกระเตื้องขึ้น หนุนการส่งออกชายแดนไทย-เมียนมาในภาพรวมปี 2563 ขยับขึ้นมาแตะ 1.05  ถึง 1.1 แสนล้านบาท ขยายตัวที่ร้อยละ 3.0-8.0

สำหรับโอกาสของสินค้าไทยจากอานิสงส์ข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ปัจจุบันสถานะการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดเมียนมาค่อนข้างดี  โดยสินค้าไทยที่ครองตลาดอย่างโดดเด่น ทั้งในแง่ของการขยายตลาดส่งออกหรือการเปลี่ยนไปเป็นการลงทุนที่เมียนมาแทนการนำเข้าจากไทยก็ตามยังคงเป็นสินค้าเดิมในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน มอเตอร์ไซค์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางรายการ ขณะที่ก็ยังมีโอกาสในการส่งสินค้าอื่นไปตอบโจทย์ความต้องการของเมียนมาที่อาจจะต้องเผชิญการแข่งขันอยู่บ้าง อาทิ ยารักษาโรค อาหารทารก และอาหารแปรรูปต่างๆ 

ขณะที่สินค้าขั้นกลางของไทยน่าจะเป็นดาวรุ่งใหม่ที่น่าจับตาและยังทิ้งห่างคู่แข่งอย่างจีน ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง บรรจุภัณฑ์ เม็ดพลาสติก (เอธิลีน) กระดาษ ส่วนประกอบยานยนต์ ยางล้อ ขวดแก้ว และถุงพลาสติก เป็นต้น