posttoday

Thai-New Zealand Centre: TNZC ความร่วมมือระหว่าง มทร.ธัญบุรี กับ AUT ประเทศนิวซีแลนด์

23 สิงหาคม 2562

มร.ทาฮา แมคเฟอร์สัน (Mr.Taha Macpherson) เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือในการจัดตั้ง

 

มร.ทาฮา แมคเฟอร์สัน (Mr.Taha Macpherson) เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือในการจัดตั้ง Thai-New Zealand Centre: TNZC ระหว่าง Auckland University of Technology (AUT) ประเทศนิวซีแลนด์ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศแห่งจุดหมายปลายทางด้านการศึกษานานาชาติชั้นนำของโลก และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีกลยุทธ์ด้านการศึกษานานาชาติ นิวซีแลนด์ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ของประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของโลกจาก Economist Intelligence Unit’s 2018 ในสาขา Educating for the Future Index

“การจัดตั้งศูนย์พัฒนาภาษาอังกฤษ TNZC ระหว่าง AUT กับ คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี จึงถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของความสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างประเทศนิวซีแลนด์และประเทศไทย ในการยกระดับมาตรฐานการศึกษาของไทย ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา AUT เป็นมหาวิทยาลัยที่เติบโตเร็วที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ และถูกจัดอันดับให้อยู่ในลำดับกลุ่มที่ 301-350 จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกของ Times Higher Education World University Rankings 2019 ผมเข้าใจว่าความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์ภาษา TNZC ตั้งเป้าที่จะประสบความเร็จในระดับที่ใกล้เคียงกับ AUT ในเรื่องของการพัฒนาภาษาอังกฤษ มทร.ธัญบุรี จะได้เรียนรู้โดยตรงเกี่ยวกับระบบการศึกษาที่มีชื่อเสียงระดับโลกของเราที่เน้นความยืดหยุ่นและมีความเฉพาะตัว”

Thai-New Zealand Centre: TNZC ความร่วมมือระหว่าง มทร.ธัญบุรี กับ AUT ประเทศนิวซีแลนด์

รองศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ วุฒิสมาชิก และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) กล่าวว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งอธิการบดี มทร.ธัญบุรี สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ได้มีจดหมายเชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่ง เข้าร่วมโครงการเยี่ยมชมสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา ในเมืองต่างๆ ณ ประเทศนิวซีแลนด์ จำนวน 10 แห่ง เพื่อสร้างเครือข่าย ความสัมพันธ์ทางด้านการศึกษาระดับสูงของทั้ง 2 ประเทศ ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ชัยมงคล คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่แทนในโครงการดังกล่าว

หลังจากเสร็จสิ้นโครงการฯ ทาง มทร.ธัญบุรี นำโดยคณะบริหารธุรกิจ ร่วมกับสถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ได้มีการประสานงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ของประเทศนิวซีแลนด์ แต่ที่โดดเด่นมากที่สุด คือ การได้เริ่มแสดงเจตจำนงในการต้องการสร้างความร่วมมือกันระหว่าง มทร.ธัญบุรี กับ Auckland University of Technology (AUT) นำมาซึ่งการประชุมหารือกันระหว่างผู้บริหารฯ ทั้ง 2 สถาบัน จนกระทั่งได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน ในปี 2560 ณ ประเทศนิวซีแลนด์ โดย มทร.ธัญบุรี และ AUT ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการที่จะยกระดับและพัฒนาการศึกษาร่วมกัน จึงได้จัดตั้งศูนย์การศึกษาร่วมกันของทั้ง 2 สถาบันโดยใช้ชื่อว่า Thai-New Zealand Centre: TNZC ณ RMUTT Innovation and Knowledge Center ศูนย์การค้า DD Mall จตุจักร กรุงเทพฯ ในที่สุด

Thai-New Zealand Centre: TNZC ความร่วมมือระหว่าง มทร.ธัญบุรี กับ AUT ประเทศนิวซีแลนด์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ชัยมงคล คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) กล่าวว่า หลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน ระหว่าง มทร.ธัญบุรี กับ AUT คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญบุรี ได้ส่งอาจารย์และบุคลากรไปพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษที่ AUT เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งทาง AUT ก็ได้ส่งผู้บริหาร ผู้แทนของมหาวิทยาลัย และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ มาบรรยายให้บุคลากรของ มทร.ธัญบุรี และสถาบันอื่นๆ เข้าร่วมรับฟังการบรรยายด้วย ก่อนจะนำมาซึ่งความเห็นร่วมมือในการจัดตั้ง Thai-New Zealand Centre: TNZC และนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้อนุญาตให้ตั้งมหาวิทยาลัยนอกประเทศ และได้รับอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ของ AUT อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

“การเรียนการสอนของ TNZC ในระยะแรกจะมุ่งเน้นการพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น ทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน แกรมมา อย่างเข้มข้น จึงเหมาะสำหรับนักธุรกิจ นักเรียน นักศึกษา บุคคลทั่วไป และการจัดการศึกษาในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก รวมถึงการฝึกอบรมระยะสั้น 6-12 เดือน ในอนาคต โดยมุ่งเน้นในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นสาขาที่ AUT ได้รับการจัดอันดับอยู่ในระดับต้นๆ ของโลก นอกจากนี้ AUT ยังมีเป้าหมายระยะยาวสำหรับประเทศไทย ในการที่จะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาของ Auckland University of Technology ในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN hub) ในอนาคตอีกด้วย”