posttoday

เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เปิดตัวโรงเรียนแห่งใหม่ตอบโจทย์ "นิวเจน"

22 เมษายน 2562

เลอ กอร์ดอง เบลอ ปักหมุดโรงเรียนสอนทำอาหารกลางกรุง เปิดคอร์สจัดการธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ ดึง ศักยภาพมุ่งสร้างเชฟชั้นนำที่มาพร้อมทักษะการบริหารจัดการ

เลอ กอร์ดอง เบลอ ปักหมุดโรงเรียนสอนทำอาหารกลางกรุง เปิดคอร์สจัดการธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ ดึงศักยภาพมุ่งสร้างเชฟชั้นนำที่มาพร้อมทักษะการบริหารจัดการ

นายอังเดร เจ คอยน์โทร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เลอ กอร์ดอง เบลออินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารแห่งใหม่บนพื้นที่ กว่า 3,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ชั้น 17-19 อาคารเซน เวิลด์ ทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถือว่าทันสมัยที่สุดในภูมิภาค

“ที่ผ่านมามีโรงเรียน ที่เปิดสอนกว่า 35 แห่งทั่วโลก และยินดีที่กลับมากรุงเทพฯ อีกครั้ง เพื่อเปิดโรงเรียนแห่งใหม่ ใจกลางเมืองในย่านธุรกิจการค้า ทำเลยุทธศาสตร์แห่งนี้จะเป็นส่วนสำคัญให้นักเรียนเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ทั้งจากร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงแรมและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น จากประเทศไทย ประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ระดับ ประเทศ” นายคอยน์โทรกล่าว

สำหรับเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต แห่งใหม่ ได้เปิดตัวโปรแกรมการจัดการด้านอาหารชั้นสูง หรือ the Advanced Culinary Management Programme เพื่อตอบสนองความต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะการเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการทำอาหาร ซึ่งโปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอาหารธุรกิจใหม่กว่า 60% ปิดตัวลงหลังจากปีแรก และ 80% ต้องปิดลงภายใน 5 ปี

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีความต้องการที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่าเป็นพนักงานขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง โดยพฤติกรรมนี้ได้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจอาหาร เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของนักเรียน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ที่อยู่ในช่วงอายุ 20-25 ปี ที่มีอัตราเพิ่มขึ้นมากถึง 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
นายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความเห็นถึงธุรกิจร้านอาหารของประเทศไทยว่า ในปี 2562 ธุรกิจร้านอาหารของไทยจะยิ่งทวีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงไม่มีความแน่นอน ซึ่งผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการทำธุรกิจเท่านั้นจึงจะยืนหยัดอยู่ได้ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันนี้ โดยประเภทร้านอาหารของไทยที่แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ร้านอาหารที่เป็นเครือข่ายธุรกิจ (chain restaurant) ที่มักจะอยู่บนห้างสรรพสินค้า กับสแตนด์อโลน (stand-alone restaurant) ที่เป็นร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ก็มีการแข่งขันที่แตกต่างกันออกไป และมีวิธีการดำเนินการทางธุรกิจที่แตกต่างออกไปด้วย

ปัญหาที่มักจะพบในธุรกิจร้านอาหารซึ่งส่งผลต่อความสำเร็จหรือนำไปสู่การปิดกิจการ คือ การควบคุมต้นทุน การรักษารสชาติและการบริการที่ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค 3 สิ่งนี้เท่านั้นที่จะตัดสินว่าร้านอาหารใดจะได้รับการยอมรับและคงอยู่ในธุรกิจได้

ด้านนางสาวสุชาดา สถาปิตานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กล่าวว่า นอกจากการเปิดหลักสูตรใหม่แล้ว เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังปรับกลยุทธ์ในการบุกตลาดต่างประเทศผ่านเอกลักษณ์ของอาหารไทยอันเป็นอีกหนึ่งแผนธุรกิจที่สำคัญของปี 2562 นี้อีกด้วย เนื่องจาก เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เป็นสถาบันสอนทำอาหารแห่งแรกในเครือข่าย เลอ กอร์ดอง เบลอ ที่เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการครัวไทย ซึ่งเป็นอาหารที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนนักเรียนต่างประเทศขึ้น จาก 20% เป็น 30% ภายในปี 2563 โดยเฉพาะนักเรียนในกลุ่ม AEC ซึ่งจะใช้ข้อได้เปรียบของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และค่าครองชีพที่มีราคาถูกกว่าประเทศอื่น ๆ ในการดึงดูดนักเรียนต่างชาติ