posttoday

อาเซียนลุย"ซิงเกิ้ลเดสติเนชั่น"

18 มกราคม 2562

อาเซียนยังเดินหน้าหนุนซิงเกิ้ล เดสติเนชั่น ขณะไทยเสนอเชื่อมทางบกกับลาว-เวียดนาม กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง

อาเซียนยังเดินหน้าหนุนซิงเกิ้ล เดสติเนชั่น ขณะไทยเสนอเชื่อมทางบกกับลาว-เวียดนาม กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รอง ผู้ว่าการตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยในงานอาเซียน ทัวรึซึม ฟอรัม 2019 (เอทีเอฟ) ปีนี้ว่า 10 ประเทศอาเซียนจะร่วมมือกันส่งเสริมให้อาเซียนเป็น ซิงเกิ้ล เดสติเนชั่น หรือจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้หลายประเทศ ภายในการเดินทางเพียงครั้งเดียว ต่อไป
         
ด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ไทยได้ผลักดันการเชื่อมโยงเครือข่ายคมนาคมทางบกระหว่างประเทศในอาเซียน โดยปัจจุบันเส้นทางที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ การเชื่อมโยงทางถนนระหว่างไทย ลาว และเวียดนาม ซึ่งจะสร้างประโยชน์อย่างมากให้กับการท่องเที่ยวในเมืองรองของไทย และอีกสองชาติ
         
นอกจากนี้ไทยและฟิลิปปินส์ได้ผลักดันร่วมกันให้เน้นการคุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นแนวทางที่จะทำให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างยั่งยืน จากเดิมที่มุ่งเน้นแต่การดึงดูดนักท่องเที่ยว
         
สำหรับในปีนี้ททท.ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยว จากทั่วโลก (ยกเว้นอาเซียน) เพิ่มขึ้น 6% และมี รายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน พร้อมตั้งเป้านักท่องเที่ยวอาเซียนโต 7% และรายได้เพิ่มขึ้น 11% โดยในปีที่ผ่านมาไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนทะลุ 10 ล้านคนเป็นครั้งแรก และมีนักท่องเที่ยวเวียดนามทะลุ 1 ล้านคนเป็นครั้งแรกเช่นกัน  เนื่องจากมีเที่ยวบินตรงจากเวียดนามมาไทยเพิ่มขึ้นมาก
         
นอกจากนี้ นายฉัททันต์ยังได้เน้นย้ำว่า ไทยกำลังให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และสนับสนุนการท่องเที่ยวในเมืองรองทั้งหมด 55 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย จากวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ซึ่งมีความแตกต่างกัน
         
ทั้งนี้ งานเอทีเอฟ 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง กว๋างนิญ ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีธีมงานปีนี้ว่าอาเซียน-พลังแห่งความเป็นหนึ่ง นับเป็นงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวและการเจรจานัดหมายทางธุรกิจท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ระหว่างวันที่ 14-19 ก.พ. ซึ่งปีนี้มีผู้ประกอบการจากไทยเข้าร่วมทั้งหมด 50 ราย ขณะที่ผู้ซื้อมีจำนวน 362 ราย จาก 52 ประเทศ