กนง.จับตาจุดอ่อนฉุดเสถียรภาพระบบการเงิน

กนง.แนะผสมผสานนโยบายการเงิน-คลัง แก้ปัญหาเศรษฐกิจโตไม่ทั่วถึง ห่วงคนแห่ลงทุนเสี่ยงมากขึ้น

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ระบุว่า การ แก้ปัญหาการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ ไม่ทั่วถึงต้องผสมผสานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค มาตรการที่ตรงจุดและการปฏิรูปเชิงโครงสร้างควบคู่กันไป ซึ่งการประชุม กนง.เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2560 มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% เนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจนมากขึ้น อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นช้ากว่าที่ประเมินไว้ รวมทั้งนโยบายการเงินไม่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน แต่อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอาจกระตุ้นให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และกระทบกำลังซื้อของ ผู้สูงอายุที่พึ่งพาเงินออมและรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก

ทั้งนี้ ยังเป็นห่วงว่าการเงินยังมีความเสี่ยงและเปราะบาง โดยเฉพาะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และปัญหาเสถียรภาพการเงินที่จะเกิดขึ้นในจุดกฎเกณฑ์การกำกับดูแลยังไม่ครอบคลุม

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้น ทำให้ กนง.ปรับประมาณการจีดีพีปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 3.5% เป็น 3.8% โดยเป็นการขยายตัวของการส่งออก การท่องเที่ยว และเสถียรภาพเศรษฐกิจดีขึ้น โดยทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 3.5 เท่า เทียบกับหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ดุลบัญชีเดินสะพัดก็เกินดุล 9% ต่อจีดีพี แต่ยังคงจับตาการปรับนโยบายการเงิน สหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ที่อาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันให้ปรับเพิ่มสูงขึ้น