posttoday

มาตรการชิม-ช็อป-ใช้...ตอบโจทย์เร่งฟื้นเศรษฐกิจได้จริงหรือ?

30 กันยายน 2562

โดย ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภานายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย

แผนกระตุ้นการบริโภคโดยใส่เงินเข้าไปในกระเป๋าประชาชนให้ไปจับจ่ายใช้สอยซึ่งหลายรัฐบาลในอดีตเคยใช้ในยามเศรษฐกิจอับจนด้วยการแจกคูปองแต่มีการรั่วไหล เข้ายุคดิจิทัลเปลี่ยนเป็นโอนเงิน 1,000 บาท ผ่านระบบออนไลน์ด้วยการลงทะเบียน“แอพเป๋าตัง”ซึ่งเป็นจี-วอลเล็ตเมื่อผ่านจะส่งเอสเอ็มเอส ยืนยันรหัสการใช้ผ่านคิวอาร์โค้ดสามารถใช้สิทธิ์ได้ 2 เด้ง คือ ซื้อสินค้าตามแหล่งและจังหวัดที่กำหนดแต่ต้องไม่เกินวงเงินและใช้สิทธิ์คืนเงิน 15% (Cash Back)ของเงินที่ใช้แต่ไม่เกิน 4,500 บาท โครงการนี้จะสิ้นสุดภายในเดือนพฤศจิกายนรายละเอียดต่าง ๆ จนถึงวันนี้คงรู้ดีกันไปทั่ว

ด้านการตอบรับจากประชาชนดีเกินคาดเพราะโควต้าโหลดแอพไม่เกินวันละ 1 ล้านรายต่อวันชาวบ้านไม่ยอมหลับยอมนอนแค่ตี 4 ไม่เกินตี 5 ก็เต็มแล้ว โครงการนี้ตั้งเป้าหมายไว้ 10 ล้านคนอาจมีแนวโน้มขยายเพิ่มขึ้นเป็นการแจกเงินให้ประชาชนโดยตรงไม่จำกัดว่าจะเป็นเสี่ยหรือยาจก คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียน 4 ถึง 5 หมื่นล้านบาทแฮปปี้ทั้งคนใช้เงิน ร้านค้า ร้านอาหาร รีสอร์ททั้งเล็กและใหญ่เป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องธุรกิจในยามที่เครื่องยนต์เศรษฐกิจหลักทำงานไม่เต็มที่ ผลการตอบรับที่ออกมาคงทำให้รัฐบาลยิ้มออกได้สามารถทำคะแนนได้ดีขึ้นเพราะงานนี้ไม่มีใครบ่นมีแต่คนชอบอยากให้ทำอีกขณะเดียวกันรัฐบาลได้ผลงานเป็นโบนัสจีดีพีคงขยายตัวได้บ้าง ส่วนฝ่ายค้านคงได้แต่ตาปริบ ๆ พูดไม่ออกจะว่าไม่ดีก็ไม่ได้เพราะประชาชนชอบ งานนี้ยอมรับว่าคนคิดได้เจ๋ง

“ชิม-ช็อป-ใช้” เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบแพ็คเกจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้งบประมาณมากกว่า 3.5 แสนล้านบาท เช่น โครงการสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่มีผู้เข้าถึง 14.6 ล้านคน เงินช่วยการแจกเงินพิเศษให้กับผู้ถือบัตรคนจนทุกคนๆ ละ 500 บาท เป็นเวลาสองเดือนซึ่งจบไปแล้วในเดือนกันยายน รวมแล้วเงินที่เติมให้กับผู้ถือบัตรคนรายได้น้อยรอบนี้คนละ1,000 - 2,600 บาทไม่รวมเงินเลี้ยงบุตรอีกทั้งยังมีเงินช่วยค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าแก๊สรวมกัน 430 บาทต่อครอบครัวยังไม่รวมเงินชดเชย VAT ร้อยละ 5 ซึ่งขยายต่อไปถึงปีหน้าทั้งหมดนี้ใช้เงินไปเป็นหลักแสนล้าน

คำถามว่ามาตรการกระตุ้นการบริโภคด้วยการแจกเงินผ่าน“แอพเป๋าตัง”สามารถตอบโจทย์เร่งให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วจริงไหม คำตอบคงไม่ใช่เพราะเศรษฐกิจไทยมูลค่าประมาณ 16.33 ล้านล้านบาท เงินเท่านี้คงดันเศรษฐกิจได้ไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ แต่ในยามนี้คงมีผลดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวในช่วงโค้งสุดท้ายได้บ้างจะได้ไว้อวดหรือข่มไม่ให้ฝ่ายค้านยกมาเป็นประเด็นว่าไม่มีน้ำยา

ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าโครงการ ชิม-ช็อป-ใช้ รัฐบาลออกตัวได้เร็วเพียงแค่ 2 เดือนดันเม็ดเงินออกมาใช้ได้คงมีการคิดและวางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว อาจเป็นโครงการโยนหินถามทางนำร่องวัดความพอใจของประชาชนซึ่งตอบได้ว่า “ผ่าน”ดูจากตัวเลขคนที่เขามาโหลดแอพวันละหนึ่งล้านรายต่อวันไม่ทันฟ้าสว่างเต็มโควต้าแล้ว

รัฐบาลคงประเมินแล้วว่าเศรษฐกิจตั้งแต่ไตรมาส 4 ไปจนถึงปีหน้าจะโหดมากกว่าที่ผ่านมาด้านการส่งออก 8 เดือนหดตัวถึงร้อยละ 2.2 การลงทุนเอกชนดิ่งเหวอาจโตไม่ถึงร้อยละ 1.8 ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งสหรัฐ จีน ญี่ปุ่นรวมถึงสหภาพยุโรปการขยายตัวทางเศรษฐกิจล้วนหดตัว สำนักงานเศรษฐกิจการคลังอยู่ระหว่างการทบทวนปรับตัวเลขจีดีพีใหม่เพราะหากจะให้เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 3.0 โดยต้องมีเงื่อนไขเช่นจากนี้ไปการส่งออกต้องไม่ติดลบ ซึ่งคงต้องมีปาฏิหาริย์มาช่วย สงครามการค้าโลกต้องจบซึ่งแม้แต่คุณทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เจ้าตัวเองยังไม่รู้และตอบไม่ได้ ภาคส่วนเดียวของไทยที่ยังขยายตัวได้ดีคือด้านท่องเที่ยวจากต่างชาติเดือนสิงหาคมที่ผ่านกลับมาขยายตัวสูงสุดในรอบ 1 ปี

โค้งสุดท้ายของการดันเศรษฐกิจการจะพึ่งมาตรการอื่น ๆ เช่น การประกันราคาสินค้าเกษตรผลตอบรับด้านจีดีพีอาจไม่มากขึ้นอยู่กับการส่งออกจริง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการประชารัฐซึ่งเม็ดเงินกระจายตัวเฉลี่ยทั้งปี ดังนั้นโครงการชิม-ช็อป-ใช้ จึงเป็นความหวังขณะเดียวกันการตอบรับของประชาชนที่ออกมาดีมีร้านค้า-สถานประกอบการตั้งแต่ห้างใหญ่ไปจนถึงร้านค้าย่อยเข้าร่วมโครงการมากกว่า 1.5 แสนราย คงตอบโจทย์เศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง

มาตรการนี้เป็นการแจกเงินฟรีเข้ากระเป๋าประชาชนโดยไม่เลือกว่าเป็นใคร มีแต่เป็นมาตรการช่วงสั้นๆ ในด้านเศรษฐกิจคงไม่เห็นผลชัดเจน“ได้เงินแล้วใช้ไปหมดแล้วก็จบแล้วไงต่อ”แถมอาจมีหนี้เพิ่มที่หวังจะเป็นการเร่งให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วๆ คงเป็นเรื่องยากเพราะทั้งโลกรวมถึงไทยเศรษฐกิจอยู่ในสภาพซึมและยาวคงต้องงัดมาตรการอะไรออกมาอีก

แต่ที่ต้องระวังเป็นผลข้างเคียงเงินที่แจกฟรี ๆ อาจเป็นการมอมเมาประชาชนและเสพติดเลิกไม่ได้“ไม่ให้ไม่ยอม”ใครมาเป็นรัฐบาลต้องงัดมาตรการนี้ออกมาใช้ในการหาเสียงต่างเกทับกันเพื่อที่จะได้ส.ส.มากๆไว้หนุนจัดตั้งรัฐบาลแล้วระยะยาวประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร...เห็นพูดกันว่ารักชาติกันทั้งน้าน คิดให้ดีนะครับ

(สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์ www.tanitsorat.com หรือ www.facebook.com/tanit.sorat)