posttoday

บีทีเอสเล็งจีบต่างชาติผนึกกำลัง BSR ลุยรถไฟไฮสปีดอีอีซี 2.15 แสนล้าน

27 มิถุนายน 2561

บีทีเอสเล็งจีบต่างชาติผนึกกำลัง BSR ลุยรถไฟไฮสปีดอีอีซี 2.15 แสนล้านบาท ไม่หวั่นปัญหาแอร์พอร์ตลิงก์ พร้อมซื้อรถเพิ่มแก้แออัด

บีทีเอสเล็งจีบต่างชาติผนึกกำลัง BSR ลุยรถไฟไฮสปีดอีอีซี 2.15 แสนล้านบาท ไม่หวั่นปัญหาแอร์พอร์ตลิงก์ พร้อมซื้อรถเพิ่มแก้แออัด

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เข้ายื่นซื้อซองเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินอีอีซี วงเงิน 2.15 แสนล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นบริษัทจะผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มเอกชนภายใต้ชื่อว่ากิจการร่วมค้า BSR ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ชนะโครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรีและรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) ประกอบด้วย บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC และ  บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือRATCH นอกจากนี้ยังเตรียมหาเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนอีก 1 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ โดยทางบริษัทคุยกับหลายบริษัทมาก กับบริษัทปตท.จำกัด(มหาชน)ในยังไม่สามารถบอกได้ ส่วนใหญ่บริษัทที่คุยจะมีทั้งบริษัทในไทยและต่างชาติ ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นทั้งผู้ผลิตรถ และโอเปอร์เรเตอร์ ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะหาผู้ร่วมลงทุนรายที่4ได้ภายในส.ค.นี้

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่าทั้งนี้ BTS คาดว่าจะถือสัดส่วน 25% ตามทีโออาร์ที่กำหนดไว้ ว่านิติบุคคลไทยอย่างน้อย 1 ราย เข้าร่วมกลุ่มโดยมีสัดส่วนการลงทุนเกินกว่า 25% ของทั้งหมด และสมาชิกอื่นแต่ละรายต้องมีสัดส่วนการลงทุนไม่น้อยกว่า 5% โดยสมาขิกแต่ละรายต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนมาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3ปี นับถึงวันที่ยื่นข้อเสนอ   ส่วนข้อกังวลหากในกรณีที่บริษัทปรมูลชนะแล้วต้องรับแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์เข้ามาดูแลนั้น เบื้องต้นทางBTS วางแผนแก้ไขปัญหาขบวนรถระบบโอเปอร์เรตของแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ได้แน่นอนเพื่อลดปัญหาความแออัดบนชานชาลาและภายในรถไฟฟ้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวไม่น่ามีข้อกังวลเพราะในทีโออาร์ให้เวลาในการปรับปรุงถึง2ปี รวมถึงการจัดซื้อรถใหม่เข้ามานั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ส่วนการก่อสร้างทั้งโครงการคาดว่าเงินที่ลงทุนเพียงพอต่อการก่อสร้างในระยะเวลา5ปี นับจากลงนามสัญญา1ปี