มีเราไม่มีเทา รังสิมันต์ โรม ลั่น ประชาชนยกเครื่องการเมืองใหม่

เสียงของ “รังสิมันต์ โรม” ดังก้องอีกครั้ง เมื่อพรรคประชาชนเปิดตัวแคมเปญใหม่ภายใต้ชื่อที่ชวนสะดุดหู “มีเราไม่มีเทา”

สโลแกนสั้นแต่แรงสะเทือนถึงรากการเมืองไทย ที่กำลังเผชิญเงาเข้มของ “ทุนสีเทา” และอิทธิพลใต้ดินที่ซึมลึกในทุกวงจรอำนาจ

รังสิมันต์ กล่าวอย่างมั่นใจว่า แคมเปญนี้ได้รับเสียงตอบรับดีเกินคาด เพราะประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองที่มี “สีเทาปนดำ” มานาน และย้ำว่า พรรคประชาชนจะเป็นพรรคแรกที่ “ตัดขาด” จากธุรกิจสีเทา ไม่ว่าผู้มีอิทธิพลนั้นจะอยู่ในคราบนักการเมือง ข้าราชการ หรือทุนต่างชาติ
 

“มีเราไม่มีเทา” เส้นแบ่งขาวดำทางอุดมการณ์

คำว่า “เทา” ในที่นี้ ไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ของความไม่ชัดเจน แต่หมายถึงโครงข่ายธุรกิจผิดกฎหมาย — พนันออนไลน์, คอลเซ็นเตอร์, ฟอกเงิน, และสแกมเมอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่าหลายแสนล้านบาท และกัดกร่อนศรัทธาของสังคม
“เมื่อคนดีไม่ลงมือจัดการ คนชั่วก็ครองเมือง” โรมกล่าว พร้อมยืนยันว่า พรรคนี้จะเป็นเครื่องมือของประชาชนในการรื้อระบบที่ปกป้องคนเทาๆ

250 เสียงแห่งความฝัน – พรรคเดียวรัฐบาลเดียว

เป้าหมาย 250 ที่นั่งที่โรมตั้งไว้นั้น ไม่ใช่เพียงตัวเลข แต่คือสัญลักษณ์ของ “อำนาจเต็มเพื่อปฏิรูปจริง”
เขาเชื่อว่า หากพรรคประชาชนได้เสียงข้างมากเด็ดขาด ก็จะสามารถผลักดันนโยบายได้โดยไม่ต้องต่อรองกับกลุ่มอำนาจที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในระบบ

“เราต้องการรัฐบาลที่สะอาดทุกกระทรวง ทุกงบประมาณต้องตรวจสอบได้” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น

เงื่อนไขแห่งการร่วมรัฐบาล – ไม่เทา ไม่จับมือ

แม้จะเปิดกว้างต่อการร่วมมือกับพรรคอื่นในอนาคต แต่โรมย้ำชัดว่า “สีเทาคือเส้นแดง”

เงื่อนไขสำคัญของการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต คือทุกพรรคที่เข้าร่วมต้องยอมรับหลักการ “มีเราไม่มีเทา”

หากใครยังมีรอยด่างจากทุนมืด พรรคประชาชนจะไม่ยื่นมือให้ร่วมบริหาร เพราะสิ่งที่พรรคหวงแหนที่สุดคือ “เครดิตทางศีลธรรม” ที่ประชาชนฝากไว้

จุดตัดแห่งการเลือกตั้ง 2569

โรมเชื่อว่า ในศึกเลือกตั้งปี 2569 ประชาชนจะใช้ “ปัญหาทุนสีเทา” เป็นจุดตัดสำคัญในการตัดสินใจ เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องศีลธรรมทางการเมือง แต่คือสงครามเพื่ออนาคตของประเทศ

“ถ้าเราปล่อยให้ทุนสีเทาควบคุมการเมือง ประเทศจะไม่มีวันพัฒนาได้” เขาทิ้งท้าย

ในโลกการเมืองที่เต็มไปด้วยเฉดสีเทา รังสิมันต์ โรม พยายามปักธง “สีขาว” ไว้อย่างกล้าหาญ
และหากพรรคประชาชนได้ถึง 250 เสียงตามฝัน “กำแพงโปร่งใส” ที่เขาว่าจะสร้างขึ้นนั้น อาจกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของการเมืองไทย — การเมืองที่ไม่ต้องพึ่งอำนาจมืด แต่พึ่งพาความเชื่อใจของประชาชนอย่างแท้จริง.

ที่มา : รายการคมชัดลึก(คลิ๊กชม)
เรียบเรียง : ทีมข่าวการเมือง โพสต์ทูเดย์