posttoday

เบื้องหลังเพื่อไทยหักภูมิใจไทย“กาสิโน-พนันออนไลน์-ยาเสพติด”

27 มิถุนายน 2568

ปม "กาสิโน-พนันออนไลน์-ปราบยาเสพติด"ไฟขัดแย้ง"เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" จน "อนุทิน" ถอนตัวจากรัฐบาล เตรียมยื่นซักฟอกนายกฯ "แพทองธาร" 3 ก.ค.นี้ จับตาอนาคตรัฐบาลสั่นคลอน

ความสัมพันธ์ระหว่าง พรรคเพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย เผชิญมรสุมครั้งใหญ่ หลังความพยายามช่วงชิงบทบาทนำในประเด็นร้อนที่สังคมและฝ่ายความมั่นคงจับตาอย่างใกล้ชิด ทั้งนโยบาย "กาสิโนถูกกฎหมาย", การจัดระเบียบ "พนันออนไลน์" และแนวทาง "ปราบปรามยาเสพติด" ได้กลายเป็นชนวนลึกที่นำไปสู่การ "แตกหัก" และการถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ล่าสุดพรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นญัตติ "อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแพทองธาร"วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 

"กาสิโน-พนันออนไลน์" จุดชนวนความไม่ลงรอย

ปมความขัดแย้งที่ชัดเจนที่สุดคือเรื่อง "กาสิโน" และ "พนันออนไลน์" โดยพรรคเพื่อไทยเดินหน้าผลักดัน "Entertainment Complex" หรือศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร ซึ่งมี "กาสิโน" เป็นองค์ประกอบสำคัญ ด้วยเหตุผลเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศจากภาษี และควบคุมการพนันผิดกฎหมาย

แต่ในทางกลับกัน พรรคภูมิใจไทย แสดงจุดยืนคัดค้านอย่างแข็งขัน "ไม่เอากาสิโน" และต่อต้านการพนันออนไลน์อย่างชัดเจน โดยมองว่าเป็น "ภัยสังคม" มากกว่าแหล่งรายได้

ดังที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาเปิดเผยว่า การผลักดันกาสิโนเป็นหนึ่งในชนวนสำคัญที่ทำให้พรรคต้องหลุดจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะตั้งคำถามถึงผลประโยชน์ว่าแท้จริงแล้วจะตกอยู่กับใคร ประชาชนจะได้อะไร? พร้อมย้ำว่ากาสิโนจะดึงเงินเข้ากลุ่มทุนไม่กี่กลุ่ม และตามมาด้วยปัญหาอาชญากรรมและปัญหาครอบครัว

ความแตกต่างทางอุดมการณ์นี้ถูกเน้นย้ำผ่านการอภิปรายในสภาและสื่อมวลชนหลายครั้ง สร้างความรู้สึกว่าพรรคภูมิใจไทยถูกลดทอนบทบาทในการร่วมกำหนดนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของรัฐบาล

ปราบยาเสพติด: แข่งกันเด่น กลับกลายเป็นปัญหา

อีกหนึ่งประเด็นร้อนคือการ "ปราบปรามยาเสพติด" ซึ่งเดิมเป็นจุดแข็งและผลงานเด่นของพรรคภูมิใจไทยในรัฐบาลชุดก่อน โดยเฉพาะช่วงที่นายอนุทินดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้ผลักดันมาตรการเชิงรุกในพื้นที่ต่างจังหวัดภายใต้นโยบาย "กัญชาเสรี" ควบคู่ไปกับการควบคุมยาเสพติด

ทว่าเมื่อพรรคเพื่อไทยกลับมามีอำนาจ และเข้ามาควบคุมตำแหน่ง "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย" และ "รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย" เองโดยตรง ทำให้ทิศทางนโยบายและแนวทางการจัดสรรงบประมาณ รวมถึงเครื่องมือเชิงบริหาร ถูกดึงกลับไปอยู่ในมือพรรคเพื่อไทยอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้บทบาทและพื้นที่ในการทำงานของพรรคภูมิใจไทยลดน้อยลงไป

นายอนุทิน ยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ได้เดินหน้านโยบายทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมายโดยตรง อย่างกรณีพนันออนไลน์ที่ถูกเสนอให้โอนอำนาจข้ามกระทรวง แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาชี้ชัดว่าทำไม่ได้ จึงแจ้งไปตามข้อเท็จจริง แต่กลับถูกกล่าวหาว่าขัดนโยบาย ซึ่งไม่เป็นธรรม

จุดแตกหัก: ยึดคืน "มหาดไทย" สู่มือเพื่อไทย

ภายใต้กระแสการปรับคณะรัฐมนตรีรอบล่าสุด พรรคเพื่อไทย ตัดสินใจดึง "กระทรวงมหาดไทย" กลับมาเป็นกระทรวงหลักของพรรค พร้อมปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในระดับรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเร่งขับเคลื่อนนโยบายที่ค้างคาและฟื้นฟูความเชื่อมั่นในการบริหารราชการแผ่นดิน 

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกตีความว่าเป็นการ "ลดบทบาทพรรคภูมิใจไทยอย่างมีนัยสำคัญ" และเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่นำไปสู่การ "ถอนตัวจากรัฐบาล" และเตรียมยื่น "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเร็วๆ นี้ ซึ่งนายอนุทินเองก็เน้นย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยไม่ใช่กระทรวงที่ประชาชนอยากให้มีการปรับมากที่สุด แต่เป็นกระทรวงกลาโหมตามโพลสำรวจ
 

วิเคราะห์ผลกระทบ: รัฐบาลสั่นคลอน สู่ศึกชนช้างเลือกตั้งท้องถิ่น

การแตกหักครั้งนี้ส่งผลกระทบในหลายมิติ:

เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน: เมื่อเสียงสนับสนุนในสภาเริ่มไม่แน่นอน ทำให้การผ่านร่างกฎหมายสำคัญและการบริหารราชการอาจเผชิญอุปสรรคมากขึ้น

สงครามวาทกรรมรุนแรง: การเผชิญหน้าระหว่างสองพรรคจะทวีความเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการพิจารณางบประมาณและร่างกฎหมายสำคัญ

แนวโน้มศึกเลือกตั้งท้องถิ่น: สนามเลือกตั้งท้องถิ่นจะกลายเป็นสมรภูมิใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจะต้องห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด จากเดิมที่เคยแบ่งพื้นที่อิทธิพลกันอย่างชัดเจน

 ความเชื่อมั่นลดลง: กลุ่มทุนและข้าราชการส่วนภูมิภาคอาจลดความเชื่อมั่น หากการแย่งชิงอำนาจส่งผลกระทบต่อความต่อเนื่องและเสถียรภาพของนโยบายในระดับจังหวัด

การถอนตัวของพรรคภูมิใจไทยและการเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญสำหรับรัฐบาลแพทองธาร ว่าจะสามารถประคองสถานการณ์และเดินหน้าบริหารประเทศท่ามกลางรอยร้าวทางการเมืองครั้งใหญ่นี้ได้อย่างไร


อมรเดช ชูสุวรรณ
บก.ข่าวและคอลัมนิสต์เชี่ยวชาญวิเคราะห์ประเด็นสังคมร้อนแรง
ด้วยสไตล์เขียนคมชัด ตรงประเด็น มีมุมมองเฉพาะตัว

ข่าวล่าสุด

โดนไม่หยุด! Perplexity ถูกสำนักข่าวชื่อดังหลายแห่งฟ้องร้อง