โอปอล “มิสเวิลด์” ท่วงท่า คุณค่า วาจา รอยยิ้ม ที่งามจนโลกยอมรับ
"โอปอล สุชาตา ช่วงศรี" หญิงไทยผู้คว้ามงกุฎมิสเวิลด์อย่างสง่างาม ไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาเท่านั้น แต่เพราะเธอคือ “ความเป็นไทยที่เคลื่อนไหวได้” ในโลกสมัยใหม่
เสียงปรบมือจากชาวโลกหลากชนชาติสะท้อนก้องกลางเวที Miss World 2025
แฟลชจากกล้องสื่อทั่วโลกจับภาพหญิงสาวผู้หนึ่ง
ภาพนั้น ไม่ใช่เพียงภาพของ “ความงาม”
แต่คือภาพของ “ความหมาย”
โอปอล สุชาตา ช่วงศรี หญิงไทยผู้คว้ามงกุฎมิสเวิลด์อย่างสง่างาม
ไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาเท่านั้น
แต่เพราะเธอคือ “ความเป็นไทยที่เคลื่อนไหวได้” ในโลกสมัยใหม่
เธอไม่ได้เพียงเดินบนเวที
แต่เธอ “ประกาศ” ให้โลกเห็นว่า
ความอ่อนโยน ความลึกซึ้งในมุมคิด และจิตวิญญาณของ “กุลสตรีไทย”
ยังมีที่ยืน บนเวทีโลก
เธอไม่ได้เดินทางจากแผ่นดินไทยไปประชันโฉม
แต่เธอเดิน “แบบนโยบายวัฒนธรรม” ออกไป
ให้ Soft Power ของชาติไทย ยืนหยัด โดยไม่ต้องพูด
“โอปอล” ไม่ใช่แค่หญิงงาม
เธอคือบทกวีของศิลปะแห่งความเป็นมนุษย์
เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
ภาษากาย ใบหน้า อ่อนโยนแต่หนักแน่น
ลอยยิ้ม แววตา วาจาที่ฉะฉาน ชาญฉลาด
และเหนือสิ่งอื่นใด เธอทำให้คำว่า “ไทย” มีภาพ มีเสียง และมีความรู้สึก
เวที Miss World ไม่ใช่เวทีประชันผิวพรรณอีกต่อไป
แต่มันกลายเป็นเวทีปลดปล่อย “ยุทธศาสตร์ Soft Power”
ซึ่งรัฐบาลไทยขับเคลื่อนอยู่ ควรฉวยโอกาสนี้ แปรเปลี่ยนเป็น “นโยบายแห่งรัฐ”
ถามว่าใคร “ปั้น” โอปอล?
คำตอบคือ “ระบบวัฒนธรรมไทย” ที่ยังไม่ตาย
เริ่มจาก “แม่ปุ้ย” ปิยาภรณ์ แสนโกศิก
หญิงไทยอีกคนที่ไม่ได้สวมมงกุฎ
แต่สวม “ความเพียร”
บ่มเพาะสาวงามให้มีสมองเป็นเพชร
การกล่อมเกลาเหล่านั้น ไม่ได้ทำเพื่อขึ้นเวที
แต่เพื่อให้หญิงไทย “เข้าใจรากของตน”
และก้าวไปยืนบนเวทีโลกอย่างมีจุดยืน
และอย่าได้มองข้าม “ภาครัฐ” โดยเฉพาะ
กระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
ที่กล้านำ “ท่วงท่ากุลสตรีไทย” มาปัดฝุ่น
บันทึก และพัฒนาเป็น “หลักสูตรร่วมสมัย”
ให้หญิงไทยรุ่นใหม่
มีท่วงท่าแบบไทย โดยไม่ต้องย้อนยุค
นี่ไม่ใช่แค่นโยบายบนกระดาษ
แต่มันให้ผลผลิตเป็น “คน”
คนที่ยืนได้ และทำให้ “ประเทศชาติ” ยืนไปด้วย
ชุดที่โอปอลใส่ขึ้นเวที ไม่ใช่แค่ “ชุดไทยสวย”
แต่มันคือ “ความคิดสร้างสรรค์ของดีไซเนอร์ไทย”
ที่วันนี้ ไม่ได้ทำเพื่อสาวไทยเท่านั้น
แต่ได้รับความไว้วางใจจากนางงามต่างชาติเลือกใช้
นี่คือ “อุตสาหกรรมแฟชั่น Soft Power” ที่รัฐบาลควรเร่งสนับสนุน
ต้องลงทุนในระบบการผลิตคน ตั้งแต่โรงเรียน อาชีวะ มหาวิทยาลัยและเชื่อมต่อไปสู่
“ตลาดแฟชั่นและความงามระดับโลก”
เพราะโอปอล ไม่ใช่แค่ “สาวงามที่โลกจดจำ”
แต่เธอคือ “โมเดลยุทธศาสตร์สร้างชาติผ่าน Soft Power”
รอยยิ้มของโอปอลในวันนี้
ไม่ได้สร้างให้ไทยได้แค่ “ชื่อเสียง”
แต่มันเปิดประตูให้คนไทยอีกนับหมื่น
ได้มีอาชีพ มีรายได้
ในสายงานความงาม แฟชั่น การท่องเที่ยว
ภาพลักษณ์ และสื่อสร้างสรรค์
สิ่งที่เคยอยู่ในเงา
ถูกดึงเข้าสู่แสง
รัฐบาลจึงต้องมอง “Soft Power” ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
แต่ต้องกล้าผลักดันให้เป็น
นโยบายสร้างชาติ
ผ่านการลงทุนใน “ทุนมนุษย์” และ “ทุนวัฒนธรรม” อย่างจริงจัง
เพราะมงกุฎที่โอปอลสวม อาจทำจากทอง
แต่คุณค่าที่แท้จริง
ไม่ได้อยู่ที่โลหะ
แต่อยู่ที่ “น้ำหนักของความเป็นไทย” ที่เธอแบกขึ้นเวที
และเมื่อเธอยิ้ม
โลกทั้งใบ ก็หยุดมอง
นั่นแหละ
Soft Power ของจริง
โอปอล มิสเวิลด์ 2025
เธอไม่ใช่แค่ “ชื่อในประวัติศาสตร์”
แต่เธอคือ “คำตอบ” ของคำถามที่เราถามกันมานาน
Soft Power ไทยอยู่ที่ไหน?
มันอยู่ในรอยยิ้มนั้น
อยู่ในท่วงท่าของเธอ
และอยู่ใน “ความกล้าของรัฐ”
ที่จะ ลงทุนกับตัวตนของคนไทย!
โดย: สิงห์ชัย ทุ่งทอง
อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.อุทัยธานี


