มนต์เสน่ห์ตลาดเมืองไทยผ่านสายตาเชฟระดับโลกอย่าง Gaston Lenôtre
ความนิยมของคนไทยต่ออาหารนานาชาติ เปิดรับวัฒธรรมที่แตกต่าง ตลอดจนความหลากหลายของต่างชาติที่มาเยือนเมืองไทย ล้วนเป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดการลงทุนของสถาบันอาหารระดับโลกให้เข้ามาเปิดสอนและฝึกอบรม ที่ล่าสุดดึงดูดเชฟระดับโลกอย่าง LENÔTRE CULINARY ARTS SCHOOL
ความนิยมในอาหารต่างประเทศสำหรับคนไทยถือว่าอยู่ในระดับที่ดี คนไทยส่วนใหญ่รับวัฒธรรมด้านอาหารของทุกชาติได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารธรรมดาพื้นเมืองไปจนถึงอาหารชั้นเลิศ อีกทั้งความหลากหลายของประชากรต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยว ทำงาน รวมถึงอาศัยในประเทศไทย ส่งผลให้ธุรกิจอาหารของต่างชาติผุดขึ้นในประเทศอย่างมากมาย
ด้วยโอกาสการลงทุนในกิจการอาหารและเสน่ห์ของประเทศไทย เป็นส่วนสำคัญที่สถาบันอาหารต่างชาติชั้นนำเลือกไทยเป็นสถานที่เปิดสอนและฝึกอบรม เช่น Le Cordon Bleu และล่าสุด LENÔTRE CULINARY ARTS SCHOOL ก็ได้ตัดสินใจเข้ามาเปิดหลักสูตรในประเทศไทย
สถาบันเลอโนท ถูกก่อตั้งโดย ‘แกสตง เลอโนท’ (Gaston Lenôtre) เชฟระดับโลกในตำนาน ซึ่งรู้จักกันดีในแวดวงเบเกอรีและขนมปังของโลก จนได้รับการขนานนามว่า “Father of French Baking”
ทั้งนี้เลอโนท เป็นโรงเรียนสอนทำอาหารที่เก่าแก่ และเป็นโรงเรียนสอนทำอาหารทางการแห่งแรกในฝรั่งเศส ที่ในปัจจุบันมีผู้เรียนกว่า 6,900 คนต่อปี อีกทั้งเป็นแหล่งผลิตเชฟชั้นนำของโลกมาแล้วมากมาย หากเอ่ยชื่อแล้วหลายท่านที่นิยมอาหารฝรั่งเศสก็จะรู้จักเป็นอย่างดี เช่น นายอลัง ดูคาส (Alain Ducasse) เชฟระดับตำนานและปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านอาหารมิชลินสตาร์กว่า 30 แห่งทั่วโลก หรือจะเป็นเชฟขนมหวาน ปิแอร์ แอร์เม่ (Pierre Hermé) อันโด่งดัง และฌอง-ปอล เจอเนต์ (Jean-Paul Jeunet)
เส้นทางสู่ประเทศไทยของLENÔTRE CULINARY ARTS SCHOOL
บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) นำโรงเรียนแห่งนี้เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยเป็นประเทศแรกและแห่งเดียวในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา
โดยโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย แห่งนี้ เปิดสอนทั้งหลักสูตรระยะยาวที่ได้ประกาศนียบัตร และหลักสูตรระยะสั้น 4 ชม. ขึ้นไป เพื่อฝึกอบรมหลักสูตรศิลปะการทำอาหารฝรั่งเศสจนถึงระดับสูง เพื่อพัฒนาทักษะของเซฟให้มีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารฝรั่งเศสมากขึ้น
ทั้งนี้โรงเรียนเลอโนท ประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการเป็นแรงจูงใจและสนับสนุนการพัฒนาแนวคิดในการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยโรงเรียนแห่งนี้ถือเป็น Training Center ที่ใช้หลักสูตรจากสถาบัน LENÔTRE CULINARY ARTS SCHOOL แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในประเภทกิจการสถานฝึกฝนวิชาชีพ
ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอาหารของประเทศ
การตัดสินใจของเลอโนทในการเปิดสถาบันฝึกอบรมหลักสูตรการทำอาหารฝรั่งเศสครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ นั่นคือ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ที่เป็นมากกว่าการดื่ม กิน แต่ยังครอบคลุมไปถึงการอบรมทำอาหารด้วย
อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ถือเป็นหนึ่งในซอร์ฟพาวเวอร์ที่ทรงพลังที่จะเป็นอีกหนึ่งหัวจักรในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในยุคนี้ ซึ่งภาครัฐมีแนวทางในการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอาหารอย่างชัดเจน โดยอาศัยจุดแข็งของไทยที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าก่อนช่วงโควิด – 19 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงอาหารถึง 20% ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด ด้วยเสน่ห์ของอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละภาคตามวัฒนธรรมของแต่ละท้องที่ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมคนไทยด้วยกันเอง
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มโอกาสในการท่องเที่ยวเชิงอาหารในกลุ่มเป้าหมายเดียวกันแต่แตกต่างในเรื่องของอาหาร โดยการชูอาหารต่างชาติและให้การส่งเสริมการลงทุนให้กับสถาบันการอบรมการทำอาหาร LENÔTRE CULINARY ARTS SCHOOL ในประเทศไทย ถือเป็นแนวทางหนึ่งที่น่าส่งเสริม ซึ่งจะช่วยสร้างความหลากหลาย ความเป็นนานาชาติด้านอาหารในประเทศ ยกระดับการท่องเที่ยวอาหารให้กลุ่มคนที่สนใจในอาหารต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ การมีสถาบันอบรมการทำอาหารชั้นนำจากต่างประเทศ จะช่วยสร้างโอกาสการเรียนรู้การทำอาหารต่างประเทศให้เชฟไทยโดยไม่ต้องเดินทางไกลไปยังต่างประเทศ ช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับประเทศจากการมีเชฟที่มีสมรรถนะในการทำอาหารต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะมาเติมเต็มระบบนิเวศของการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย
โดย: ณัฐธิดา ดวงอุไร นักวิชาการส่งเสริมการลงทุน ระดับชำนาญการ
บทความนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคลซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานแต่อย่างใด