"นิพนธ์"กับภารกิจทวงคืนเก้าอี้ส.ส.ชายแดนใต้ 

 

สถานการณ์ทางการเมือง การแยกกันเดินระหว่าง 2ป. ประยุทธ์ - ประวิตร ทำให้สนามการเลือกตั้งในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลดีกับพรรคประชาชาธิปัตย์ ในด้านของกระแส จริงหรือไม่ ทำให้ทุกสายตาทั้งคนนอกและคนในพรรคจับจ้องไปที่ "นิพนธ์ บุญญามณี" รองหัวหน้าพรรคในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง จะใช้กลยุทธ์ทวงคืนเก้าอี้ปลายด้ามขวาน อย่างไร หลังจากก่อนนี้ได้ร่วมกับ จุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่จ.ยะลา เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) ครบ 12เขต ประกอบด้วย

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานี 4 คน คือ นายสนิท นาแว อดีตผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานี นายมนตรี ดอเลาะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มะกรูด และนายกเทศมนตรี ตำบลมะกรูด นายยูนัยดี วาบา ผอ.โรงเรียนดรุณศาสน์วิทยา อ.สายบุรี อุปนายกสมาคมโรงเรียนเอกชนภาคใต้ และ ส.อ.สุริยา กูทา อดีตกำนันตำบลกระโด

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นราธิวาส 5 คน นายวัสสันต์ ดือเระ นายก อบต.บางปอ นายเมธี อรุณ ศิลปินนักร้องนำ ลาบานูน นายสุลัยมาน มะโซ๊ะ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส นายไซดี เจ๊ะหามะ อดีตผู้สมัคร ส.ส. นราธิวาส อดีตรองนายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส และ นายเจะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ 5 สมัย

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ยะลา 3 คน คือ นายประสิทธิ์ชัย พงษ์สุวรรณศิริ กก.บห. หจก.พงษ์ไทย และ บ.มิตรทองสงขลานายอับดุลเล๊าะ บุวา อดีตผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดยะลา และ นายณรงค์ ดูดิง อดีต ส.ส. จังหวัดยะลา

อย่าลืมว่า การเลือกตั้งปีหน้าไม่ปรากฎชื่อ “อันวาร์ สาและ” เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ประชาธิปัตย์ ขณะที่เจ้าตัวจะย้ายไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ 

ว่ากันว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค"เที่ยวไล้เที่ยวขื่อ" ขึ้นลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ สรรหาว่าที่ผู้สมัครส.ส.ให้เป็นไปตามกติกาของพรรค ซึ่งว่าที่ผู้สมัครส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ยังไม่เคยลงเล่นการเมืองระดับชาติมาก่อน จะมีเพียง ”เจะอามิง โต๊ะตาหยง” ผู้สมัคร จ.นราธิวาส เขต 5 และ ”ณรงค์ ดูดิง” อดีต สส.ยะลา เขต 3 ที่เป็นอดีต ส.ส.เก่าของพรรค 

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2566 นิพนธ์ วางกลยุทธ์ ส่งว่าที่ที่ผู้สมัครส.ส.ทั้งคนรุ่นใหม่และอดีตส.ส.เก่า เข้าสู้ในสนามการเลือกตั้ง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพรรคการเมืองเก่าแก่ ในเรื่องการการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และเป็นผู้สนใจการเมืองมาลงสมัครในนามของพรรคและหยุดกระแสเลือดไหลที่โหมกระหน่ำมาก่อนนี้

ยุทธศาสตร์ที่"นิพนธ์" ใช้เดิมเกมหาเสียงเพื่อให้ได้คะแนนเสียงจากชายแดนใต้ คือการชูนโยบาย “ความมั่นคงด้านอาหาร” ครอบคลุมทั้งภาคการเกษตร สายพันธุ์พืช ผลไม้ ประมง ปศุสัตว์และรสชาติที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ นำไปสู่การต่อยอดในภาคธุรกิจ สร้างเงิน สร้างรายได้ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้นเพื่อนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งการพัฒนาต่างๆต้องดำเนินควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีความมุ่งหวังเพื่อเปลี่ยนพื้นที่ความขัดแย้งไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง

สถานการณ์ทางการเมืองที่แยกกันเดินระหว่าง2ป.กระแสความนิยมของพรรคพลังประชารัฐที่ลดลงในพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้ กับกลยุทธ์พ่วงยุทธศาสตร์ที่"นิพนธ์" กำลังเดินหน้าหาเสียง แม้จะส่งผลดีต่อกระแสความนิยมในพรรค แต่อย่าลืมว่ายังมีคู่แข่งขันทางการเมืองที่สำคัญ อย่างพรรคประชาชาติ” ที่มี“วันมูหะมัดนอร์ มะทา”หัวหน้าพรรค และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นเลขาธิการพรรค และมีส.ส. 6 คน ทำการบ้านและเกาะติดพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว

ย้อนไปในการเลือกตั้งเมื่อปี2562 พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มี 11 เขตเลือกตั้ง 

พรรคประชาธิปัตย์ได้เก้าอี้มาเพียง 1 ที่นั่ง คือ “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี เขต 1 (18,790 คะแนน) 

พรรคประชาชาติยึดครองไป 6 ที่นั่ง  
1.นายกูเฮง ยาวอหะซัน เขต 3 นราธิวาส (36,218 คะแนน) 
2.นายกมลศักดิ์ ลีวะเมาะ เขต4 นราธิวาส (38,361 คะแนน) 
3.นายอนุมัติ ซูสารอ เขต3ปัตตานี 35,550 คะแนน 
4.นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ เขต4 ปัตตานี  (28,510 คะแนน) 
5.นายซูการ์โน มะทา เขต2 ยะลา (33,329 คะแนน)
และ6.นายอับดุล อายี สาแม็ง เขต3ยะลา  (37,118 คะแนน)

พรรคพลังประชารัฐแบ่งเก้าอี้ส.ส. 3 ที่นั่ง 
1.วัชระ ยาวอหะซัย เขต1 นราธิวาส (28,918 คะแนน) 
2.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ  เขต2 นราธิวาส (33,076 คะแนน) 
และ3.อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ เขต 1 ยะลา (21,995 คะแนน)

ส่วนพรรคภูมิใจไทยรั้งท้ายเก็บได้  1 ที่นั่งเท่านั้นจาก อับดุลอาซิม อาบู เขต 2 ปัตตานี ด้วยคะแนน 17,418 คะแนน

สนามเลือกตั้งพื้นที่ชายแดนภาคใต้ครั้งหน้า แม้พื้นที่จะเล็กแต่เต็มไปด้วยดีกรีความเข้มข้นเกมการแข่งขันช่วงชิงคะแนนเสียง ถือเป็นงานหนักและท้าทายของ "นิพนธ์" เพราะอย่าลืมว่าอดีตประชาธิปัตย์เคยเป็นแชมป์ มี ส.ส.มากที่สุด ดังนั้น การมียุทธศาสตร์อย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมีการทำความเข้าใจกับบรรดาว่าที่ผู้สมัครของพรรค เพื่อให้สามารถนำยุทธศาสตร์ไปถ่ายทอดกับประชาชนในพื้นที่แปรเป็นคะแนนเสียงให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง