posttoday

ประโยชน์เพื่อเรา

18 กุมภาพันธ์ 2562

ยังไม่สิ้นควันหลงเสียงนกหวีด การเมืองไทยเริ่มมีอะไรออกมาให้เห็นชนิดเรียกว่า “บิ๊กเซอร์ไพรส์”

เรื่อง ทองพระราม

ยังไม่สิ้นควันหลงเสียงนกหวีด การเมืองไทยเริ่มมีอะไรออกมาให้เห็นชนิดเรียกว่า “บิ๊กเซอร์ไพรส์” เมื่อพรรคไทยรักษาชาติ หรือ ทษช. ได้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของการปิดรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ และยื่นบัญชีรายชื่อนายกฯ

ซึ่งพรรคจะเสนอเป็นบุคคลที่ให้รัฐสภาพิจารณาคัดเลือกเป็นนายกฯ แต่แล้วฟ้าผ่าเปรี้ยงช่วงดึกคืนวันเดียวกัน ทำให้ดวงตาทุกคู่หันมาจับจ้องพรรคไทยรักษาชาติ ว่าจากนี้จะเดินหน้าไปในทิศทางใดต่อไป เพราะถูกมรสุมถาโถมเข้ามาลูกใหญ่ จากการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งต้องยอมรับเรื่องนี้สั่นสะเทือนให้กับตัวพรรคไม่น้อย

โดยเฉพาะหลังจากมีผู้ร้องเรียนต่อ กกต.ให้ดำเนินการกับพรรคไทยรักษาชาติ เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 92 (2) ที่ระบุว่า กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเรื่องดังกล่าว กกต.จะส่งเรื่องให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดว่าจะยุบหรือไม่ยุบพรรค

แต่คำถาม คือ ผลตามมาจากประเด็นดังกล่าวกำลังสะท้อนถึงอะไร นับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อนในทางการเมืองอย่างมาก การเมืองจากนี้กลายเป็นไม่ได้วัดกันที่ตัวนโยบาย แต่ต่างงัดกลเม็ดไม้เด็ดออกมาช่วงชิงจังหวะ เพื่อหวังเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน
ดังนั้น จึงเป็นการบ้านของประชาชนที่จะต้องคิดทบทวนให้หนัก ว่าอยากให้บ้านเมืองเป็นไปทิศทางไหน

ท่ามกลางบ้านเมืองอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่าน และกำลังก้าวเข้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งนับถอยหลังแล้วเวลาอีกไม่กี่อึดใจ ประชาชนจะได้เข้าคูหาใช้สิทธิลงคะแนนเพื่อเลือกพรรคการเมืองที่รัก ให้เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศแทนปวงชนชาวไทย เมื่อยังเหลือเวลาทุกคนต้องทบทวนให้ดีว่าจะฝากชีวิตและปากท้องให้กับพรรคการเมืองไหนได้เข้ามาทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นตามที่พรรคการเมืองต่างเดินหน้าหาเสียงพร้อมชูนโยบาย เพราะจากบริบทการเมืองที่ปรากฏออกมาบนหน้าสื่อทุกแขนง กำลังเปรียบประหนึ่งย้อนรอยถอยหลังกลับไปในอดีต เพียงคิดแค่ว่าช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมืองเท่านั้น

เมื่อการเลือกตั้งจะกลายเป็นตัวชี้วัด ดังนั้น ประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจ ต้องชั่งใจและไตร่ตรอง กลั่นกรอง และพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าจะเลือกใครให้เข้ามา เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาทำหน้าที่ปวงชนชาวไทย จะมีผลผูกพันกับชีวิตไปถึง 4 ปี

จึงเป็นการบ้านให้ประชาชนต้องพิจารณารอบด้าน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและบ้านเมืองที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะหากก้าวพลาดไปเพียงก้าวเดียว เท่ากับกำลังฝากอนาคตชีวิตไว้ในมือผิดคน เพราะประโยชน์ของประชาชนและประเทศควรจะมาเป็นอันดับต้นๆ

อย่าปล่อยให้ประโยชน์ของประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศ ไปตกอยู่ในกระเป๋าของใครเป็นอันขาด เพราะนอกจากไม่ได้อะไรแล้ว อาจจะไม่เหลืออะไรไว้เลย นอกเสียจากภาระหนี้สินติดตามตัวอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เนื่องจากไม่เท่าทันเหล่าบรรดานักการเมืองหัวหมอ

บ้านเมืองจากนี้ไปอยู่ในมือประชาชนที่จะไปใช้สิทธิวันที่ 24 มี.ค. เพื่อเลือกพรรคการเมืองเข้าไปทำงานแทนประชาชน พร้อมทั้งนำพาประเทศฝ่าคลื่นมรสุมซึ่งกำลังเผชิญอยู่ทุกด้าน

จึงอย่าให้ประโยชน์ไปตกที่ใครนอกจากประชาชนเพียงเท่านั้นดังนั้น คิด ทบทวน ไตร่ตรอง ให้ดี ก่อนเข้าคูหาลงคะแนน