posttoday

พิจารณาให้ดี

04 กุมภาพันธ์ 2562

แม้หลายพรรคการเมืองจะเริ่มคิกออฟแคมเปญออกมาเอาใจประชาชน ไม่ว่าจะเป็นวัยเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่

เรื่อง ทองพระราม

แม้หลายพรรคการเมืองจะเริ่มคิกออฟแคมเปญออกมาเอาใจประชาชน ไม่ว่าจะเป็นวัยเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่ เพื่อขอคะแนนเสียงเข้ามาบริหารประเทศ หลังต้องหยุดชะงักนานทศวรรษ เพราะพิษสงของการเมืองภายในจากความขัดแย้งทางความคิด ตลอดจนประเด็นทุจริตคอร์รัปชั่น

วันนี้พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปมีผลบังคับใช้ หลายพรรคการเมืองต่างเริ่มออกเดินสายพบปะประชาชน เพื่อประกาศจุดยืนพร้อมทั้งชูนโยบายที่ใช้เป็นจุดขาย หวังเรียกเก็บคะแนนใจจากประชาชนก่อนเข้าคูหากาเบอร์ที่ใช่และพรรคที่ชอบ

ให้เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ แน่นอนว่าหลายนโยบายที่พรรคการเมืองต่างงัดออกมาเพื่อใช้เป็นกลเม็ดเด็ด คงหนีไม่พ้นเรื่องปากท้อง ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญไม่ใช่แค่เพียงเฉพาะบ้านเราเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงหลายประเทศทั่วโลกที่ต้องเผชิญกับพิษทางเศรษฐกิจ

เพราะโลกนี้จะใช้เพียงแค่อาหารมาแลกเปลี่ยนเหมือนยุคโบราณสมัยก่อนก็คงจะไม่ได้ เนื่องด้วยโลกในยุคปัจจุบันก้าวไกล จนเรียกได้ว่าอนาคตเราอาจจะไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวอีกต่อไป เพียงแค่ในบัญชีมีเงินพอและใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่นเท่านั้นเป็นอันจบเรื่อง

อย่าว่าแต่เงินจะติดในกระเป๋าที่อาจจะไม่ต้องมีอีกต่อไปในอนาคต แต่ที่สำคัญไปกว่าคือเงินติดในบัญชีจะมีเหลือมากพอให้ใช้จ่ายได้แค่ไหน ท่ามกลางที่ทุกอย่างในประเทศถูกรัดเข็มขัดไว้อย่างแน่นหนา ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก รายใหญ่ หรือแม้แต่ผู้ประกอบการต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทย

แทบจะทุกพรรคการเมืองที่กำลังหาเสียงอยู่ขณะนี้ พยายามบอกว่าจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น มีเงินติดตัว ล้วงกระเป๋าเจอสตางค์ หรืออะไรต่อมิอะไรก็ตามที หากแต่ความจริงจะเป็นได้อย่างนั้นหรือไม่ จึงเป็นประเด็นให้น่าขบคิดว่าสามารถเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน

ไม่ใช่เพียงแค่โปรยยาหอม หว่านเสน่ห์ใส่ และเมื่อถึงเวลาจริงกลับทำไม่ได้ตามที่พูด พร้อมอ้างเหตุผลต่างๆ นานา ดังนั้นจากวันนี้จนถึงวันที่ 24 มี.ค. ที่ถูกกำหนดให้เป็นวันเลือกตั้งจริงในการชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย เมื่อคำนวณทุกวินาที นาที ชั่วโมงแล้ว เท่ากับว่าประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศ

ยังมีเวลาทบทวนไตร่ตรองว่าทุกนโยบายแต่ละพรรคซึ่งเกี่ยวข้องกับปากท้อง จะสามารถทำได้จริงและเห็นผลขนาดนั้น อย่าให้ปัญหาเมื่อเข้ามาแล้ว ท้ายที่สุดสรุปแล้วทำไม่ได้ หรือทำได้แค่เพียงพอผ่านไปที ท้ายที่สุดกลับต้องมาเป็นปัญหาภายหลัง จนยากเกินเยียวยาจากความขายฝัน

เมื่อเวลายังมีเหลือพอทบทวนก็จงใช้มันให้คุ้มค่าเต็มที่ อย่าให้เรื่องราวเก่าๆ ซึ่งเคยเป็นบทเรียนชั้นครูกลับมาหลอกหลอนได้อีก เดี๋ยวจะเป็นแบบเจ็บแล้วไม่จำ เพราะฉะนั้นเมื่อทั้งหมดเคยมีหน้าประวัติศาสตร์ให้เห็นภาพกันมาแล้ว

ก็อย่าเดินย้อนรอยกลับไป อย่าเอาความชอบอยู่เหนือเหตุผล เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ดีไม่ดีอาจกลายเป็นแย่กว่าเก่า เหมือนประโยคที่ว่า “หนีเสือปะจระเข้” ซึ่งเชื่อว่าคำคำนี้หลายคนคงเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี เพราะที่คิดว่าแท้จริงแล้วอาจไม่ดี

ทางที่ดีก็ควรทบทวน เพราะเชื่อว่าประชาชนหลายคนได้รับบทเรียนจากการเมืองยุคน้ำเน่ามาไม่มากก็น้อย และก็คงไม่เป็นเหยื่อให้กับคำหอมหวาน หรือภาพที่ปรากฏเห็นเพียงเท่านั้น ดังนั้นจงพิจารณาให้ดีเท่าที่จะทำและเป็นไปได้

เพราะอนาคตอยู่ในมือเรา เพียงแต่จะเลือกใครเข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชน อย่าให้ 4 นาทีเข้ามาทำลาย 4 ปี