posttoday

ประเทศไม่ใช่ของเล่น

28 มกราคม 2562

เรียกว่าการเมืองไทยนับจากนี้จะเดินหน้าได้อย่างเต็มรูปแบบ ภายหลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง

เรื่อง ทองพระราม

เรียกว่าการเมืองไทยนับจากนี้จะเดินหน้าได้อย่างเต็มรูปแบบ ภายหลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ทุกพรรคการเมืองสามารถนำเสนอนโยบายเรียกใจประชาชน

สอดรับกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ซึ่งได้ประกาศให้วันที่ 24 มี.ค. 2560 เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ทำให้การเมืองต่อไปนี้มีความชัดเจนมากขึ้น ท่ามกลางหลายฝ่ายโดยเฉพาะจากซีกการเมืองรวมถึงกลุ่มมวลชนที่เคลื่อนไหว ที่ต่างจับจ้องว่าวันเลือกตั้งท้ายสุดแล้วจะเป็นวันใดกันแน่

แต่ก่อนจะถึงวันใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งจริง แน่นอนว่าทุกพรรคการเมือง อาทิ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย ต่างต้องงัดกลเม็ดเด็ดโดยเฉพาะนโยบายต่างๆ ให้ออกมาตรงเป้าโดนใจประชาชนที่สุด และเป็นนโยบายที่ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ใช่เพียงขายฝันสวยหรู

ด้วยห้วงเวลาดังกล่าว จากนี้ไปจะเห็นการแข่งขันของแต่ละพรรค การเมืองดุเดือดเข้มข้น โดยเฉพาะเชิงนโยบายที่ต่างกระหน่ำซัมเมอร์เซลออกมา หากย้อนกลับไปก่อนพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาอย่างเป็นทางการ จะพอเห็นแนวนโยบายของแต่ละพรรคต่างผุดออกพอให้เห็นภาพ

ยิ่งเฉพาะนโยบายเกี่ยวข้องกับปากท้องประชาชน และแม้ว่านโยบายออกมาจะเป็นอย่างไร ใช่หรือไม่ จริงหรือแท้ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของประชาชนชาวไทยในฐานะเจ้าของประเทศ ต้องขบคิด ทบทวน ไตร่ตรอง ให้หนัก

ประการสำคัญความเป็นไปได้ต่อตัวนโยบายแต่ละพรรคการเมืองที่นำมาใช้เป็นจุดขายเพื่อเรียกคะแนนเสียงว่าสามารถทำได้จริงมากน้อยเพียงใด โดยไม่ให้เกิดผลกระทบตามมาภายหลัง เพราะหากคำนึงเพียงแค่ว่าอยากให้มีเลือกตั้ง ฝันร้ายอาจกลับมาตามหลอกหลอนเหมือนเช่น 10 ปีที่ผ่านมา

จนทำให้ประเทศชะงักไม่สามารถเดินหน้าไปไหนได้ไกล เพราะจมปลักกับวังวนปัญหาความขัดแย้ง เชื่อว่าบทเรียน 10 ปีการเมืองไทย คงเข้าไปลงรากฝังลึกในห้วงจิตให้เกิดความขยาด และไม่อยากให้ภาพเหตุการณ์ความวุ่นวายต่างๆ บนท้องถนนจากการชุมนุมของพลพรรคสีเสื้อต่างๆ ต้องออกมาเดินพาเหรดให้เกิดความปั่นป่วนใจ

กลับมาบั่นทอนชีวิตความเป็นอยู่ เพราะประเทศขณะนี้เดินมาไกลเกินกว่าจะกลับหวนรอยเดิม ดังนั้น เมื่อมีเวลาให้ทุกฝ่ายพิจารณา ก็จงใช้มันอย่างคุ้มค่า ใช่เพียงต้องการกำจัดอีกฝ่าย แต่ต้องพินิจพิเคราะห์ให้ดี เพราะท้ายที่สุดแล้วประโยชน์ต้องตกอยู่ที่ตัวประชาชนและประเทศ

อย่าให้นโยบายของแต่ละพรรคที่ต่างออกมาพรั่งพรู แล้วกลายเป็นประโยชน์หันคืนกลับเข้าสู่กระเป๋าของกลุ่มบุคคลหรือใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งหมายถึงหายนะของคนทั้งชาติต้องมาแบกรับภาระจากหนี้สินไร้ความจำเป็น ดังนั้น อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะภาพลักษณ์แต่จงมองให้ลึกถึงตัวนโยบายแท้จริง

เมื่อความชัดเจนในการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้ว ที่เหลือก็เป็นความชัดเจนของประชาชนในการคิดทบทวนจะเลือกให้ประเทศชาติเป็นแบบไหน ซึ่งบ้านเมืองไม่ใช่ของใครแต่เป็นของทุกคนปวงชนชาวไทยในการพายเรือให้กับประเทศไปถึงจุดหมาย

ภายใต้การนำของรัฐบาลที่ถูกต้องเหมาะสม อย่าให้ความชื่นชอบส่วนตัวมาบดบังความชอบธรรมที่ควรจะบังเกิด เนื่องจากประเทศไม่ใช่ของเล่นให้ใครเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ แล้วทิ้งซากให้ประชาชนรับผิดชอบ