ผู้ชี้ชะตาเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจในปีนี้จะเป็นอย่างไร ดูเหมือนจะมีคำประเมินที่หลากหลายออกมา
เรื่อง ณ กาฬ เลาหะวิไลย
เศรษฐกิจในปีนี้จะเป็นอย่างไร ดูเหมือนจะมีคำประเมินที่หลากหลายออกมา
เท่าที่ดูหลายสำนักมองว่า คงจะเหนื่อยกว่าปีก่อน
เอาเฉพาะแค่สภาวะแวดล้อมต่างๆ ไม่เป็นใจ ราคาพืชผลการเกษตรยังไม่ขยับ การส่งออกทำท่าจะหืดจับ การลงทุน การใช้จ่ายภาครัฐ ภาคประชาชน คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนัก
และว่าไปแล้ว เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ก็คงต้องบอกว่าอยู่ในมือคน 2 คน
ทั้งคู่ไม่ใช่ซาร์เศรษฐกิจ หรือรัฐมนตรีคนใด แต่เป็น ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กับประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐ จึงเป็นตัวชี้ทิศทางเศรษฐกิจในปีนี้
สาเหตุเนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะด้านการส่งออก การเปลี่ยนแปลงในตลาดโลกที่สำคัญ จึงส่งผลกระทบการส่งออกของไทยอย่างจัง
ตลาดส่งออกสำคัญของไทย คือ จีน ประเทศอาเซียน และสหรัฐ
เมื่อจีนกับสหรัฐมีปัญหาระหว่างกัน ก็สร้างผลกระทบต่อการส่งออก ทั้งการส่งออกโดยตรง และการส่งออกโดยอ้อมไปยังอาเซียน
เอาเฉพาะแค่ปีก่อน เมื่อจีน สหรัฐ มีปัญหาสงครามการค้า การส่งออกของไทยที่ดูดีมาตลอดก็ประสบปัญหาทันที
ทั้งนี้ ยังไม่รวมตลาดท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวจีนหดหายไป โดยส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาภายในของไทยเอง แต่อีกส่วนก็เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจของจีน
ภาวะความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมไปถึงมาตรการต่างๆ ที่ทั้งคู่จะยกขึ้นมาเล่นงานกัน กลายเป็นประเด็นที่กระทบต่อเศรษฐกิจของโลกและเศรษฐกิจไทย
เท่ากับว่าปัญหาสงครามทางการค้าระหว่าง 2 ยักษ์ของโลก ไม่ได้กระทบเฉพาะการส่งออกที่มีต่อกันเท่านั้น จุดสำคัญก็คือได้ส่งผลกระทบความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง เนื่องจากไม่รู้ว่าศึกที่เกิดขึ้นจะขยายตัวบานไปขนาดไหน สินค้าใดจะโดนเล่นงานเพิ่มขึ้น ฯลฯ
เหล่านี้จึงเป็นประเด็นต่อเนื่องถึงมิติอื่นๆ ทางเศรษฐกิจที่ตามมา โดยเฉพาะที่เห็นได้ชัดคืออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่หดตัวลงกว่าเดิม
เมื่อยักษ์มีปัญหา บรรดาชาติต่างๆ ที่พึ่งพาอาศัยยักษ์ใหญ่ ก็ต้องได้รับผลตามไปด้วย
เหมือนดึงผมเพียงเส้นเดียว แต่กระเทือนทั้งตัว คงไม่ผิดนัก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อมีข่าวการชะลอสงครามทางการค้าของสหรัฐกับจีน รวมถึงจะมีการเจรจาระหว่างประธานาธิบดี ทรัมป์ กับประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ถึงได้เกิดความคาดหวังว่าความอึมครึมทั้งหมดจะได้รับการแก้ไข
ที่เห็นชัดเจนก็คือดัชนีตลาดหุ้นทั้งโลก ปรับตัวดีขึ้นในช่วงต้นปี โดยถ้าทุกอย่างสงบก็จะขยายผลไปยังตัวแปรอื่นๆ
ปีนี้จึงไม่ต้องมองไปที่ไหน ขอให้เหลือบไปดู 2 ยักษ์เท่านั้น
นี่แหละ คือผู้ชี้ชะตาเศรษฐกิจตัวจริง เสียงจริง