posttoday

ตำรวจพึ่งได้

17 ตุลาคม 2561

ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับนายตำรวจทุกท่าน ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ

โดย...สลาตัน

ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับนายตำรวจทุกท่าน ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ดูแลความสงบสุขของประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบหลายกองบัญชาการ (บช.) ทยอยมอบนโยบายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาการกันไปหลายที่แล้ว

เผอิญนโยบายของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) สะดุดตาโดนใจเข้าจังเลย โดย พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (รรท.ผบช.ภ.1) ให้นโยบายดังนี้ครับ เริ่มตั้งแต่การยกระดับสถานีตำรวจ 7 ด้าน เน้นข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บน สภ. แต่งเครื่องแบบ ทรงผม การรับฟังวิทยุ

ส่วนงานป้องกันปราบปราม ท่านบอกว่า ขอให้ยึดประชาชนเป็นหลัก 3 ข้อสำคัญ เป็นตำรวจของประชาชน ประชาชนเป็นใหญ่ เพื่อความผาสุกของประชาชน โดยยึดคติประจำใจ ทันที ทันใด ประทับใจผู้แจ้ง

เช่นเดียวกับงานอำนวยการต้องรวดเร็ว จะมีการติดตามงานอาทิตย์ละครั้ง คอนเฟอเรนซ์กับหน่วยงานในสังกัด ระดับสัญญาบัตรขึ้นไปต้องเข้าประชุมหมดทุกวันอังคารเวลา 10.00 น.

งานสอบสวนที่ดูแลประชาชนดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว ซึ่งคำกลอนของ พล.ต.ต.อำพล กล่าวไว้ว่า “ประชาราษฎร์ เขากล่าวไว้ให้คิด อย่าใกล้ชิดโรงพักดีหนักหนา ไม่จำเป็นไม่ขึ้นมาเพื่อพึ่งพา อนิจจาฟัง อนาถใจ จึงตั้งจิตคิดทำโรงพักข้าฯ ให้ประชาชนเปลี่ยนภาพลักษณ์เสียใหม่ เมื่อขึ้นมาเบิกบานสำราญใจ เพื่อผ่อนคลายความทุกข์เป็นสุขเอย”

ส่วนเรื่องการป้องกันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ต้องเป็นไปอย่างเคร่งครัด กล่าวคือ ห้ามตำรวจปล่อยแถวในโรงพักต้องไปปล่อยแถวในตลาด หน้าห้างสรรพสินค้า เป็นต้น วันละ 3 ครั้ง ส่วนเรื่องปัญหางานจราจรก็ให้ปล่อยแถวในชุมชนเช่นกัน ที่สำคัญย้ำว่าอย่าให้เกิดคดีใน 3 แห่ง คือ ธนาคาร ร้านทอง และร้านสะดวกซื้อ

งานสืบสวนต้องมีการสืบสวนก่อนเกิดเหตุระหว่างเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เมื่อมีเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญให้รายงานทันที โดยหัวหน้าสถานีฯ งานจราจรต้องยืนตามแยก หรือจุดที่เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมย้ำกับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนายด้วยว่า ห้ามหากินกับการตรวจปัสสาวะและการตรวจวัดแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด

สำหรับโครงการที่ขอความร่วมมือนายตำรวจในสังกัด ภ.1 เช่น โครงการประชารัฐร่วมต้านภัยยาเสพติด “ปักกลด” ให้ตำรวจมวลชน สภ.ละ 5 นาย ไปนอนในหมู่บ้านที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ฯลฯ

โครงการตำรวจมาแล้ว ใส่สปอตเสียงลงในรถสายตรวจ ซึ่งอาจจะเป็นข้อแนะนำประชาสัมพันธ์ต่างๆ โครงการโรงพักเคลื่อนที่เดือนละ1 ครั้ง หรือ 2 สัปดาห์/ครั้ง ออกไปในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลให้ร้อยเวรประจำวันไปรับแจ้งความหรือให้คำแนะนำประชาชน

โครงการปฏิบัติธรรมสัปดาห์พระพุทธศาสนาให้ข้าราชการตำรวจใส่ชุดขาว โดยนิมนต์พระมาเทศน์ให้ฟัง ไม่แต่งชุดตำรวจร่วมตักบาตร โครงการธงสายตรวจ ทำธงญี่ปุ่นมีคำว่า “Police” มีไฟกะพริบด้านบน สายตรวจไปนั่งที่ใดให้ตั้งธงลงตรงจุดนั้น ประชาชนที่ผ่านไปมาจะได้ทราบว่ามีตำรวจอยู่บริเวณใด

สุดท้ายโครงการระฆังทองนำระฆังมาแขวนไว้บน สภ.ให้สิบเวรเคาะทุก 1 ชั่วโมง เพื่อให้ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ปฏิบัติหน้าที่ประจำ สภ.

จะเห็นได้ว่า พล.ต.ต.อำพล มุ่งมั่นที่จะเข้ามากู้ภาพลักษณ์ตำรวจ เดิมที่ดีอยู่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมไปอีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนที่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในสังคม ยกเกียรติประชาชนเป็นใหญ่ ตำรวจต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างดี