นับถอยหลังขึ้นดอกเบี้ย

โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย

เรียกได้ว่าชัด ยิ่งกว่าชัด เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยที่อย่างไรเสีย ก็ต้องขึ้นแน่นอน

วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธนาคารชาติ เป็นผู้ออกมาส่งสัญญาณอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก

ประเด็นที่วิรไทพูดก็คือ การที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไตรมาส 2 เติบโต 4.6% สอดคล้องกับที่ธนาคารชาติคาดการณ์ไว้ โดยช่วงเดือน ก.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นจังหวะที่จะทบทวนประมาณการเศรษฐกิจระยะต่อไป

เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวชัดเจนขึ้น ทำให้การใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ มีความจำเป็นน้อยลง

ขณะเดียวกันทิศทางดอกเบี้ยโลกค่อยๆ ปรับขึ้น ทำให้ไม่สามารถสู้กับทิศทางหลักได้ จึงต้องดูจังหวะที่เหมาะสมว่าเมื่อใดควรปรับนโยบายการเงินไปสู่ระดับปกติ

สำหรับเงื่อนไขการปรับขึ้นดอกเบี้ย ต้องพิจารณาเงินเฟ้อ การฟื้นตัว ทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพระบบการเงินเป็นองค์ประกอบหลัก

นี่แหละ คือสิ่งที่ผู้ว่าการธนาคารชาติพูดออกมา

ถ้าสังเกตให้ดี การพูดถึงการขึ้น-ลงอัตราดอกเบี้ยของผู้ว่าการธนาคารชาติจะไม่กระทำบ่อยนัก

ครั้งนี้จึงถือเป็นการส่งข้อมูลที่ชัดเจนไปยังระบบการเงินของประเทศ

และว่าไปแล้ว ความจริงแล้วการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่สิ่งที่แปลกประหลาด หรือผิดความคาดหมาย

สาเหตุเนื่องจากแนวโน้ม ทิศทางทุกอย่างส่อแสดงถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เริ่มจากปัจจัยในประเทศ สถาบันการเงินหลายแห่งเร่งระดมเงินฝาก โดยมีเงินฝากพิเศษๆ ออกมาในตลาด เพื่อตุนเงินต้นทุนต่ำเอาไว้ก่อน

ในแง่สินเชื่อ ก็มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นเป็นระยะ อาทิ การทยอยขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน ที่อยู่อาศัย

ส่วนปัจจัยภายนอก เห็นจะหนีไม่พ้นธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด หน้าเดินขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นตัวเร่งสำคัญให้ธนาคารกลางทั่วโลก ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยตาม

นอกจากนั้นตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ยังเป็นเครื่องยืนยันอีกว่า เศรษฐกิจอเมริกาฟื้นตัว และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นสิ่งจำเป็น

เท่ากับว่าวันคืนดอกเบี้ยต่ำ ที่กินเวลานานนับทศวรรษ จากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ หรือวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ กำลังกลายเป็นอดีต

แต่อีกเช่นกัน แม้ในแง่เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ มองว่า จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ย ทว่าในแง่การเมืองทั้งโลกก็ไม่อยากให้ขึ้นดอกเบี้ย

อย่างในสหรัฐ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาพูดหลายครั้ง ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นดอกเบี้ย เพราะต้องการให้ตัวเลขเศรษฐกิจขยายตัวสูงๆ เพื่อเป็นผลงานทางการเมือง

ฉะนั้น คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกนัก หากจะมีการขึ้นดอกเบี้ย แล้วเกิดเสียงค้านขึ้นมา

และไม่ใช่เรื่องแปลกอีกว่าทำไม วิรไท ถึงต้องมาส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

ทุกอย่างมีเหตุ มีปัจจัยสอดรับกัน ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ

ตถตา...มันก็เป็นเช่นนั้นเอง