posttoday

ชีวิตบนความเสี่ยง

07 มิถุนายน 2560

เสียวสันหลังไม่น้อย...กับอาวุธสงครามที่หลุดรอดออกมาเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองในเวลานี้

โดย...วัยรุ่นเฟรง

เสียวสันหลังไม่น้อย...กับอาวุธสงครามที่หลุดรอดออกมาเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองในเวลานี้

แถมเป็นเรื่องตลกที่ขำไม่ออก เพราะการตรวจพบอาวุธที่หลุดรอดออกมาแต่ละครั้งนั้น ไม่ได้มาจากความสามารถของเจ้าหน้าที่ หน่วยความมั่นคง หน่วยข่าวกรอง ที่ติดตามเกาะติดจนนำมาสู่การจับกุม แต่มาจากอุบัติเหตุแทบทั้งนั้น

ถ้าไม่บังเอิญจนเรื่องแดง เราก็จะไม่รู้ว่าว่าขบวนลักลอบขนอาวุธเดี๋ยวนี้ย่ามใจจนถึงขั้นเลือกใช้วิธีส่งผ่านไปรษณีย์เอกชนกันแบบเนียนๆ และทำกันเป็นเรื่องปกติขนไปทั่วประเทศ 15 จังหวัด แบบท้าทายอำนาจรัฐแบบไม่ไว้หน้าเจ้าหน้าที่และผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่ฟังเสียงเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ออกมาชี้แจงกันคนละทีสองที ได้แต่โยนกันไป โบ้ยกันมา ไม่ใช่ระเบิดของสีนั้น ไม่ใช่อาวุธของสีนี้

ก่อนตบท้ายตามฟอร์มว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานขณะนี้มีเบาะแสพอสมควร

แค่นี้ก็พอจะเดาตอนจบได้ไม่ยาก เหมือนกับอีกหลายๆ เรื่องที่เหมือนเขียนตอนจบกันไว้เรียบร้อยแล้ว

งานนี้ชัดเจนทั้ง ส.ท.อิสระพงษ์ พรหมบุตร ในฐานะผู้ส่ง และ ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ ที่ปรากฏตัวในภาพวงจรปิด ณ ร้านเคอรี่ เอ็กซ์เพรส สาขาบางเขน ซึ่งอยู่ระหว่างการคุมตัวไปสอบสวน ร่วมกับเจ้าพนักงานและพลเรือนอีกหลายคน แต่สุดท้ายน่าจะออกมาเป็นความผิดเฉพาะตัว ที่แต่ละคนที่เกี่ยวข้องรับโทษกันไปตามระเบียบ

ส่วนเรื่องที่มาที่ไป หรือเบื้องหน้าเบื้องหลัง สุดท้ายถ้าไม่ไปชนตอก็คงสาวต่อไปได้ไม่ถึงไหน และปล่อยให้ทุกอย่างลืมเลือนไปกับกาลเวลา รอให้มีเรื่องใหม่ที่ร้อนแรงกว่ามากลบไปในที่สุด

ไม่ต่างจากการตรวจพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมากในรถของ พ.อ.อ.เอกภคิน เดชพงษ์ ขณะประสบอุบัติเหตุที่ จ.ตราด ท่ามกลางความสงสัยว่าอาวุธมากมายเหล่านั้นมาจากไหน จะขนไปที่ไหน และจะเอาไปก่อเหตุอะไร

เช่นเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงเพียงแค่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้แล้ว  “ส่วนที่มาของอาวุธนั้นยังไม่แน่ชัด แต่ไม่ใช่การเอาอาวุธออกมาจากคลังของเรา เพราะในคลังอาวุธปืนอาก้าไม่มี ส่วนจะมาจากไหนนั้นไม่รู้ แต่เราได้มีการคุมเข้มในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว”

ฟังแล้วก็แทบไม่มีความชัดเจนอะไรให้ชาวบ้านตาดำๆ ได้อุ่นใจ

ยิ่งในบรรยากาศบ้านเมืองที่กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง เกิดเหตุระเบิด  เหตุป่วน ต่อเนื่องในหลายจุด แต่ก็ยังไม่สามารถจับมือใครดมได้จนถึงขณะนี้ ที่ผ่านมาจะเห็นข้อสันนิษฐานเบื้องต้นที่เชื่อมโยงไปถึงกลุ่มการเมืองฮาร์ดคอร์

ชวนนึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งเจ้าหน้าที่บูรณาการกำลังตรวจค้นบุกยึดคลังแสงในอดีต แต่ก็ไม่อาจสกัดความรุนแรงให้เกิดขึ้นในเวลาต่อมา ตรงกันข้ามกลับมีความรุนแรงที่ท้าทายหนักขึ้นเรื่อยๆ

การพบอาวุธสงครามที่เกลื่อนกลาดในเวลานี้ จึงยิ่งตอกย้ำความไม่ปลอดภัยกับการใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงที่ยังไม่เห็นความเอาจริงเอาจังในการแก้ไขจากผู้มีอำนาจรัฐ