posttoday

ความสง่างาม...!!

28 ธันวาคม 2559

วันนี้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์ วัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาคดี “ฟอกเงิน” และ “รับของโจร” สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

โดย...สลาตัน

วันนี้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์ วัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาคดี “ฟอกเงิน” และ “รับของโจร” สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น  ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องลับ แม้แต่คนใกล้ชิดยังไม่ได้เห็นจีวรเลย หลังจากอาพาธหนักเส้นเลือดใหญ่อุดตันบริเวณขาจนไม่สามารถเดินทางเข้ามอบตัวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตอนนี้แม้แต่เงาพระธัมมชโยไม่เคยมีใครได้เห็นเลย (หรือว่ารับกิจนิมนต์ข้างนอก)

เมื่อครั้งดีเอสไอเข้าตรวจค้นเพื่อจับกุมตัวพระธัมมชโย เกิดข้อติดขัดสารพัดสุดท้ายหาตัวพระธัมมชโยไม่พบ ไม่นานกลุ่มสำนักงานประชาสัมพันธ์ของวัดออกมาแถลงว่า หากพระธัมมชโยเข้ามอบตัว “ต้องรอกว่าบ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตยก่อน” จากวันนั้นถึงวันนี้กลายเป็นวาทะเด็ดทางสังคมพูดถึงกันอย่างมาก เพราแม้แต่ ขวัญชัย ไพรพนา แกนนำประธานชมรมคนรักอุดร ยังนำไปอ้างเหตุผลใช้หลบหนีศาลเช่นกัน

ประเด็นพระธัมมชโยกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากเมื่อช่วงวันที่ 13-16 ธ.ค. ดีเอสไอขอศาลอาญารัชดาฯ ให้ออกหมายค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อต้องการจับกุมตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทำให้เหตุการณ์ดูตึงเครียดขึ้นมาอีกระลอก สื่อทุกสำนักทุกแขนงเทคนไปเฝ้าทำข่าวตลอด 24 ชั่วโมง สุดท้ายหมายค้นถูกเก็บไว้ในลิ้นชัก ดีเอสไอไม่ยอมเข้าดำเนินการ แม้มีโอกาสแต่ดันเลือกปล่อยให้ระยะเวลาหมายค้นหมดอายุไปเอง นับว่าเสียของยิ่ง

ในทางลับอัยการคณะทำงานร่วมกับดีเอสไอต่างฉงนสงสัยและผิดหวังว่าทำไมดีเอสไอไม่ยอมเข้าดำเนินการจับกุมพระธัมมชโย เพราะการขอหมายค้นในแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแจกแจงรายละเอียดต่างๆ ต่อศาลจนศาลมั่นใจอนุญาตออกหมายค้นให้ แม้ที่ประชุมจะมีการซักถามเหตุผล ข้อขัดข้องในการไม่เข้าตรวจค้น ทั้งที่มีการเตรียมกำลังตำรวจ ทหาร และดีเอสไอไว้เต็มพิกัดเลยกลายเป็นว่าทุกอย่างหยุดชะงักหมด

ท่าทีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังแสดงละครอะไรหรือไม่ “สลาตัน” เองยังงงใจเลย เพราะเกาะติดเรื่องนี้มาโดยตลอด จนเชื่อว่าพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่มีจะสามารถดำเนินการนำตัวพระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ ทุกวันกลายเป็นเวลาล่วงเลยออกไปคนผิดก็ลอยนวลอยู่ในวัด หากเทียบกับเจ้าอาวาสวัดอื่น ป่านนี้คงถูกจับสึกดำเนินการทางวินัยสงฆ์และทางอาญาไปแล้ว

คำว่า “สองมาตรฐาน” จึงถูกหยิบยกขึ้นถกเถียงกัน พระธัมมชโยมีอภิสิทธิ์ใดพิเศษกว่าพระสงฆ์รูปอื่นๆ หรือไม่ ถ้ามาตรฐานการดำเนินคดีเอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมคือสิ่งใด

ไม่น่าเชื่อพระสงฆ์เพียงรูปเดียวจะสร้างความสั่นคลอนในสังคมไทยได้ไม่น้อย ทั้งในแง่การเมือง สังคม ความมั่นคงของประเทศจนลุกลามไปสู่ความขัดแย้ง คิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่มหาเถรสมาคม (มส.) และองค์กรกำกับดูแลพระพุทธศาสนา ต้องเหลียวหลังหันกลับมาให้ความสนใจอย่างจริงจังเสียที หากปล่อยล่วงเลยไปปัญหาวงการผ้าเหลืองคงเสื่อมถอยและหมดศรัทธาสูญสลายในที่สุด

เมื่อพระธัมมชโยทำผิดขื่อแปกฎหมายจึงควรเข้าสู่ระบบตุลาการ และเชื่อว่าความสง่างามของผ้าเหลืองจะดูน่าศรัทธากว่าการหลบหนี