ชีวิตเสี่ยงๆ

โดย...ดาบบุญ

เอาตามๆ เมื่อเห็นคลิปรถเมล์สาย 71 วิ่งในเส้นทาง ปัฐวิกรณ์-วัดธาตุทอง มันเสียววาบ

โชเฟอร์ขับรถมือเดียว อีกมือเข้าเกียร์ ส่วนหูก็แนบกับโทรศัพท์มือถือ

อีกคลิปก็ถ่ายรถเมล์คันนี้จากด้านหลัง ทำให้เห็นภาพเคลื่อนไหวอย่างชัดแจ้ง

รถก็ส่ายไปส่ายมาด้วยความเร็วแบบกระแทกกระทั้น จากเลนขวามาเลนกลาง จากเลนกลางขยับไปเลนขวา จากเลนขวาก็ตบเข้าเลนซ้าย

ขณะที่รถราเต็มท้องถนนเมืองกรุง แต่พี่โชเฟอร์ก็ไม่ได้หวั่นเกรง

แต่คนที่หวั่นเกรง หวั่นว่าจะรอด หวั่นว่าจะปลอดภัยหรือไม่ น่าจะเป็นผู้โดยสารบนรถเมล์สายนี้ และแน่นอนว่าผู้ร่วมทางที่อยู่ในละแวกใกล้ๆ กับรถคันนี้

มันหวาดเสียวเหลือเกิน....

ไม่ใช่ครั้งแรกแน่ๆ ที่เราได้เห็นความน่ากลัวบนท้องถนนจากรถประจำทางในถนนกรุงเทพฯ บ่อยครั้งไปด้วยซ้ำ ทั้งอุบัติเหตุ ขับรถหวาดเสียว กีดขวางการจราจรของผู้ใช้ทางร่วมกัน

แล้วความสูญเสียก็มีเช่นกัน แต่ก็ไม่เคยถูกล้อมคอกแม้แต่ครั้งเดียว

บทลงโทษของโชเฟอร์รถเมล์สาย 71 คือเปรียบเทียบปรับ 3,000 บาท ส่งเข้าอบรมเกี่ยวกับการขับรถอีก 3 ชั่วโมง และสั่งพักใบอนุญาตเป็นเวลา 30 วัน และผู้ประกอบการก็พักงานเพิ่มไปอีก 30 วัน

ทีนี้ ลองนึกภาพตามและเปรียบเทียบกับการปรับและบทลงโทษที่โชเฟอร์ได้รับ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทั้งเฉี่ยวชน ทำให้คนบาดเจ็บ หรือตายขึ้นมา โทษที่ว่าเหมือนจะดูจิ๊บจ๊อยไปหรือไม่

มันเป็นการสูญเสียที่แน่ล่ะว่าไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ ความสูญเสียที่เกิดจากความประมาทมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องให้พบเห็นกัน

...ดาบบุญ...มองว่า อาชีพคนขับรถเมล์รับส่งผู้โดยสาร เป็นงานบริการที่สำคัญ มีเกียรติ และมีความรับผิดชอบ เพราะต้องส่งความปลอดภัยควบคู่ไปกับการบริการ หากเอาถึง เอาเร็วอย่างเดียว ใครไม่พอใจก็ช่างมัน อย่างนี้มันไม่ถูกต้อง

แม้ว่าโชเฟอร์ที่ระห่ำปานนี้จะมีเป็นส่วนน้อย แต่ส่วนน้อยที่ว่ามันก็มีออกมาให้สังคมได้เห็นกันบ่อยจนเกินไปหรือไม่ เรื่องนี้ต้องฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะออกมาจากฉากและจัดการ จัดระเบียบให้มันเรียบร้อยกว่านี้

บวกกับการสนับสนุนให้คนหันมาใช้รถประจำทางสาธารณะเดินทางมากขึ้น เพื่อลดการแออัดบนท้องถนน ถามกลับว่ามาเจอคลิปเช่นนี้ พฤติกรรมขับรถแบบนี้ จะมีคนกล้าใช้บริการหรือไม่

โอเคว่าจอดรถไว้บ้าน แล้วมาขึ้นรถเมล์ต่อรถไฟฟ้า หรือต่อเรือ แต่มาเจอรถเมล์แล้วเสี่ยงต่อชีวิต เสี่ยงต่อทรัพย์สิน เชื่อว่าหลายคนก็ไม่เอา

การจูงใจต้องเป็นสิ่งที่เป็นแง่บวกให้เป้าหมายเกิดความสนใจ และต้องเป็นประโยชน์ร่วม ถ้ารถประจำทางบ้านเราดี ทันสมัย คนขับมีมาตรฐาน เคารพกฎกติกาของสังคมร่วมกัน ขี้คร้านรถราจะไม่ติดเหมือนทุกวันนี้

ช่วยกันเถอะครับ ทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ คนขับรถ เจ้าของผู้ประกอบการ เพราะมันคือความปลอดภัยของผู้อื่น และเพื่อให้ลบล้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีออกไป

อย่าเอาความเสี่ยงไปอยู่กับผู้อื่นอีกเลย