ซื้อ RMF เกินสิทธิ ทำอย่างไรดี

โดย สาธิต บวรสันติสุทธิ์,CFP

วันก่อนมีเพื่อนผมคนหนี่งซื้อ RMF เกินสิทธิ คือ เขาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ เมื่อคำนวณแล้วใช้สิทธิได้เพียง 200,000 บาท แต่เขาซื้อไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 250,000 บาท เท่ากับซื้อเกินไป 50,000 บาท ทีนี้ก็ยุ่งแล้วหล่ะสิ เพราะเงื่อนไขทางภาษีของ RMF มีทั้งเงื่อนไขขาเข้า เช่น ควรจะซื้อทุกปี เว้นได้ไม่เกิน 1 ปีติดต่อกัน ต้องซื้ออย่างต่ำ 3% ของเงินได้หรือ 5000 บาทแล้วแต่อะไรต่ำกว่า ฯลฯ และเงื่อนไขขาออก ก็เช่น ต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปี และอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ถึงจะถือว่าไม่ผิดเงื่อนไข และเมื่อผิดเงื่อนไขการลงทุนแล้ว เราก็จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และต้องดำเนินการ ดังนี้

1. กรณีที่ลงทุนไม่ถึง 5 ปี และมีการผิดเงื่อนไข
•ต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับยกเว้นไปในช่วง 5 ปีย้อนหลัง (นับตามปีปฏิทิน) 
•เมื่อขายคืนหน่วยลงทุน การขายหน่วยลงทุนดังกล่าวไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ต้องนำผลต่างระหว่างราคาขายกับราคาทุน ซึ่งถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ในแบบ ภ.ง.ด.90

ซึ่งในทางปฏิบัติเมื่อผู้ลงทุนขายคืน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมจะหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ของกำไรส่วนเกินทุนไว้ก่อน และเมื่อผู้ลงทุนไปยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ ก็จะคำนวณอีกครั้ง ว่าจะต้องจ่ายเงินภาษีเพิ่มอีก หรือไม่ อย่างไร

2. กรณีที่ลงทุนตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป และมีการผิดเงื่อนไข
• ต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับยกเว้นไปในช่วง 5 ปีย้อนหลัง (นับตามปีปฏิทิน) ส่วนกำไรที่ได้ไม่ต้องเสียภาษี

โดยการชำระภาษีตาม 1. และ 2. ต้องชำระภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่ผิดเงื่อนไข และ/หรือ ขายคืนหน่วยลงทุน  การนับ 5 ปีจะนับเฉพาะปีที่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากเราลงทุนใน RMF และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีแบบปีเว้นปี เป็นเวลา 5 ปี คือ ซื้อปีที่ 1,3,5 กรณีนี้จะนับว่าเราลงทุน 3 ปีไม่ใช่ 5 ปี
การยื่นเสียภาษีเพิ่มเติม ให้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดจากปีที่หมดสิทธิ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มตามข้อ 9 ของประกาศอธิบดีฯภาษีเงินได้ (ฉบับที่171)

อย่าซื้อ RMF เกินสิทธิมีแต่โทษไม่เป็นคุณ

กำไรจากการขายคืน RMF ที่ไม่ต้องเสียภาษีนอกจากต้องถูกตามเงื่อนไขแล้ว ยังต้องเป็นกำไรจากเงินส่วนที่นำไปลดหย่อนภาษีเท่านั้น สรุปก็คือ ต่อให้เราถือ RMF ถูกเงื่อนไขอายุ 55 ปี และลงทุนมาเกิน 5 ปี กำไรของเงินส่วนที่ไม่ได้ลดหย่อนภาษียังไงก็ต้องเสียภาษี ดังนั้น การซื้อ RMF เกินสิทธิเป็นโทษไม่เป็นคุณ

หากเราซื้อเกินสิทธิไปแล้ว เราควรทำอย่างไรดี

หลายๆบริษัทจัดการแนะนำให้ลูกค้าขายคืนส่วนที่เกินสิทธิแล้วใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเท่าที่มีสิทธิ ตัวอย่างกรณีนี้เช่น ซื้อ 250,000 บาท แต่มีสิทธิแค่ 200,000 บาท ก็จะขายคืน 50,000 บาท เหลือ 200,000 บาทเท่าที่มีสิทธิ โดยอ้างอิงข้อหารือกรมสรรพากร

แต่จากตัวอย่างที่ผมได้ฟังจากผู้บริหาร ก.ล.ต. ในกรณีเดียวกัน คือ ลูกค้าซื้อ RMF มาตั้งแต่ปี 2545 ต่อมาปี 2549 ซื้อเกินสิทธิ เจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนได้แนะนำให้ลูกค้าขายคืนส่วนที่เกินสิทธิไปซื้อกองทุนอื่นที่ไม่ใช่ RMF ปรากฏว่าต่อมาในปี 2551 กรมสรรพากรได้เรียกคืนภาษีจากการผิดเงื่อนไข และคิดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มจากการที่ไม่ยอมคืนภาษีจากลูกค้ารายนี้เป็นเงินหลายแสนบาท ลูกค้าไม่ยอมเสียภาษี และอุทธรณ์ต่อศาลภาษี สรุปสุดท้ายศาลภาษีตัดสินให้กรมสรรพากรชนะ ลูกค้าต้องคืนภาษี เสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่มหลายแสนบาท

ดังนั้นคนที่ซื้อ RMF เกินสิทธิ ก็อยากแนะนำอย่าไปขายคืนอะไรเลย ไว้รอจนครบตามเงื่อนไขคืออายุ 55 และลงทุนต่อเนื่องมาเกินกว่า 5 ปี หากจะขายค่อยขายตอนนั้น เพราะอย่างมากก็แค่เสียภาษีในส่วนของกำไรเท่านั้น ไม่ต้องคืนภาษีและเสียเบี้ยปรับเงินเพิ่มใดๆทั้งสิ้น

ท่านที่สนใจบทความทางการเงินที่ผมได้เขียนเองและได้รวบรวมจากแหล่งต่างๆสำหรับเผยแพร่ให้ท่านผู้สนใจ ขอเชิญไปกด Like ได้ที่ page ใน face book ชื่อ Sathit CFP เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารต่อไปได้ครับ...ขอบคุณครับ