ความสำเร็จในชีวิตจริงๆเริ่มที่อายุ 40 ขวบ ...เอ๊ะ !! แล้วเราอายุเท่าไหร่แล้วนี่
โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง
โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง
"มีคำพูดฮิตของฝรั่งที่พูดว่า Life Start at 40 ก็น่าจะมาจากเรื่องนี้เช่นเดียวกัน" ...ผมเองศึกษาประวัติเศรษฐีของโลกค่อนข้างเยอะคือผมต้องการรู้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในโลกใบนี้เขาอายุกันเท่าไหร่
แน่นอนทุกวันนี้เราจะเห็นแต่สื่อต่างๆพยายามย้ำเรื่อง Young Rich คือยิ่งอายุน้อยแล้วประสบความสำเร็จทุกสื่อก็ยิ่งให้ความสนใจตั้งแต่เจ้าของ Tech Start-up อย่างเจ้าของGoogle ,เจ้าของ Facebook และเจ้าของบริษัท IT ทั่วโลก
ก็ใช่อยู่ที่ทุกคนอยากสำเร็จเร็วแต่ถ้าเอาตามสถิติจริงๆ Billionaire ของโลกส่วนใหญ่สำเร็จหลังอายุ 40 ปีแล้วส่วนใหญ่ก็มาจากธุรกิจธรรมดาปัจจัย 4 นี่แหละ ...ครับ!! ผมเห็นสถิติก็แปลกใจเพราะเดิมคิดว่าคนที่สำเร็จสุดขีดต้องเป็นคนอายุน้อยที่ทำอะไรบ้าๆ ..แต่ไม่ใช่ครับเอาเข้าจริงคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตต่อสู้ทำธุรกิจสร้างผลงานธรรมดานี่แหละ ..แต่จุดที่น่าสนใจคือทำไมคนเหล่านี้ต้องอายุ 40 ปี
ถ้ามาคิดให้ดีก็จะพบว่าอายุ 40 ปีเป็นช่วงที่ชีวิตของเราผ่านประสบการณ์มาพอสมควร ...เรียกได้ว่ากว่าคนจะอายุ 40 ปีส่วนมากก็ต้องเคยผ่านความล้มเหลวใหญ่หรือความผิดหวังใหญ่ๆในชีวิตมาแล้ว
นั่นแหละครับ "เคล็ดลับของ 40" ก็คือการสะสมความสำเร็จมากเพียงพอ
งานวิจัยอีกชิ้นที่น่าสนใจเขาทำการสำรวจชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จได้เงินจำนวนมหาศาลตั้งแต่อายุยังน้อยมักจะมีปัญหาชีวิตตามมาเช่นติดยา ,เงินหมด , ชีวิตพัง ...
"คุณว่าทำไม ?" ...ไม่แปลกครับลองคิดซิว่าถ้าวันนี้ "คุณหรือผม" อยู่ดีๆก็ถูกล็อตเตอรี่ได้เงิน 1 พันล้าน ...คุณจะทำอะไร ?
แน่นอนมาดูกันว่า "เงินมากขนาดนี้จะเอาไปทำอะไร" คือ
1. ลาออกจากงาน (ซวยละคนที่ไม่มีงานมันจะฟุ้งเพราะมันไม่มีเป้าหมายไม่มีกรอบ ..ไม่มีหน้าที่สรุปคือ "มันนำไปสู่ความไม่มีความรับผิดชอบในที่สุด")
2. ซื้อของที่เคยอยากได้ ...อันนี้ซวยหนักได้เพราะ "ความอยาก" มักราคาสูงมากเช่นกินธรรมดามื้อละ 50 บาทก็อิ่มละแต่ถ้ากินที่อยากกินก็มื้อละหมื่น ...บ้านที่อยากรถที่อยากของใช้ที่อยากนาฬิกาที่อยากสถานที่ที่อยากเรือที่อยากได้เกาะล่ะไม่อยากเป็นเจ้าของเกาะหรือ ?..เครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวล่ะเท่ห์ระเบิด -- "เงินไม่หมดให้มันรู้ไป"
3. "เงินมากเพื่อนก็เยอะลูกน้องก็แยะ" ..พวกนี้แหละช่วยยุช่วยผลาญ ...เราใช้คนเดียวก็วินาศแล้วยิ่งมีคนช่วยยุให้ใช้ยิ่งไม่เหลือ
4. "เงินมากขนาดนี้ต้องเอาไปลงทุน" ...เงินที่ได้มาเพราะโชคแต่คราวนี้อยากจะเป็นนักลงทุนนั่นแปลว่า "มือใหม่" ..ถ้าคุณเป็นมือใหม่ทั้งหุ้นและธุรกิจโดนรับน้องเจ๊ง ...ยิ่งมีเงินมากยิ่งเจ๊งหนัก ...ไม่แปลกเงินที่ได้มาด้วยโชคยิ่งพยายามรักษายิ่งหมดเพราะสิ่งที่ขาดคือประสบการณ์และความรู้
โอเค!! ที่เขียนมาเพื่อที่จะปลอบใจและให้กำลังใจคนส่วนใหญ่ที่วันนี้กำลังตามฝันสร้างตัวอยู่ว่า "ชีวิตเพิ่งเริ่มเมื่ออายุ 40 ปี" ...ค่อยๆลุยครับ "ช้าแต่ชัวร์" ประมาณนี้
1. "ความล้มเหลวในชีวิตที่ผ่านๆมาคือแต้มต่อของชีวิต" ...ทุกครั้งที่เราผิดพลาดเช่นเล่นหุ้นผิด ,ธุรกิจเจ๊ง ..มันให้ความรู้ที่จะปิดความล้มเหลวในครั้งต่อไป ..ความล้มเหลวที่ผ่านมาเป็นสะพานสู่ความสำเร็จ
2. คนที่เรารู้จักระหว่างทางที่เดินล้วนเป็นสะพานสู่ความสำเร็จ
3. เงินที่เราสะสมมาก็ล้วนเป็นทุนสู่การสร้างความสำเร็จจริงๆครั้งต่อไป "ยุคนี้เก็บเงินเฉยๆไม่รวยต้องเอาเงินเป็นทุนแล้วใช้ทุนนี่แหละเป็นสะพานสู่โอกาส"
4. อายุที่เพิ่มขึ้น ...ประมาณ 40 ปีนี่แหละเริ่มสุกงอม ..บางคนก็เจ๊งจนแกร่งแล้ว ...โดนคนหลอกจนเข้าใจแล้ว ...ผ่านความผิดพลาดจนเข้าใจมนุษย์เข้าใจโลก
ก็ประมาณนั้น ...ใครสู้ชีวิตอยู่ก็ขอเชียร์ให้สู้ต่อไปคนที่สำเร็จหลังอายุ 40 ปีก็เช่น Henry Ford , Donald Fisher เจ้าของ Gap , Sam Walton แห่ง Wal-Mart , Ray Kroc แห่งแม็คโดนัลด์ , ผู้พันแซนเดิลแห่ง KFC
หรือแม้กระทั่ง Stan Lee ผู้สร้างตัวการ์ตูนพันล้าน Super Herosอย่าง Marvel ก็ล้วนเริ่มธุรกิจของเขาหลังอายุ 40 ทั้งสิ้น
ใช่ครับ!! อายุ 40 ปีก็ยังไม่สาย ...สู้ต่อไป "ชีวิตเริ่มต้นที่ 40 จ๊าาาา"


